Thursday, November 19, 2009

นกพยบผ่านเขามหาชัยในรอบหลายปี

ปรากฏ การณ์นกอพยบผ่านจังหวัดนครศรีธรรมราชในเช้าวันนี้ ไม่เคยมีมาก่อนอาจจะในรอบศตวรรษก็ว่าได้ทีเดียว โดยน่าจะบินมาตามแนวเทือกเขาหลวง ผ่านภูเขามหาชัย นับหลายร้อยตัว ตั้งแต่ตอนเช้ามืด จนกระทั่งสายก็ยังเห็นนกอพยบบินผ่านท้องฟ้ากราดเกลื่อนไปหมด โดยมุ่งหน้าไป ทางใต้ ดูด้วยสายตาจากริมเชิงเขามหาชัย บางกลุ่มก็มาบินวนอยู่แถวเขามหาชัย บางกลุ่มก็บินวนอยู่แถวช่องกิ่ว เลยเขามหาชัยไปเล็ก น่าจะเป็นการหยุดพักชั่วคราวก่อนที่จะบินต่อไป หรืออาจจะเป็นการบินวนให้สัญญาณรอกันก็เป็นได้


ยังไม่รู้แน่ชัดว่าเป็นนกอะไร ที่แน่ๆ คงจะเป็นนกขนาดใหญ่แน่นอน ชาวบ้านบางคนก็บอกว่าเป็นนกอินทรีย์ทะเล และบางคนก็บอกว่าเห็นตอนบินลงมาใกล็น่าจะเป็นนกแร้ง หรือพญาแร้ง แต่ดูท่าทางการบินแล้วก็เป็นได้ทั้งสองอย่าง  แบบการบินร่อนก็คล้ายเหยี่ยว  จะเป็นนกอะไรก็ตาม แต่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนที่อพยบมามากมายขนาดนี้  ก็น่าจะเป็นลางบอกเหตุอะไรบางอย่าง เช่นว่าภูมิอากาศเปลี่ยนแหล่งที่เคยเป็นถิ่นที่อยู่ ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้อีกต่อไป จึงต้องอพยบไปยังที่ใหม่ที่เห็นว่าสามารถปักหลักอาศัยอยู่ได้  เปรียบเสมือนหนีร้อนไปพึ่งเย็น  หลายคนแสดงความคิดเห็นว่าน่าจะมีฝนตกใหญ่หรือมีพายุก็เป็นไปได้เพราะ สัญชาตญาณของสัตว์บางอย่างดีกว่าของคน จิ้งจกทักเรายังระวังตัว คราวนี้นกทักน่าจะระวัง เป็นการแจ้งเหตุเตือนภัย อย่าประมาทเป็นดีที่สุด

Wednesday, November 18, 2009

ลวงทางจิตใจ

โดย ทั่วไปแล้วเมื่อเราพูดถึงเรื่องจิต จะหมายถึงความรู้สึกนึกคิด นึกฝันจิตนาการว่าเป็นโน่นเป็นนี่คือเป็นเรื่องในความคิดที่ไม่ได้มีอยู่ จริง บางครั้งจิตใจของเราก็อาจถูกคนอื่นจูงไปได้ให้ไปทำโน่นทำนี่ ไปด้วยจิตแต่ไม่ได้ทำจริงๆ ที่ทำกันมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยวิธีการสะกดจิต ซึ่งคนที่จะจูงจิตคนอื่นให้ไปทำอะไรๆ ได้นั้นเป็นความสามารถเฉพาะตัวที่สามารถให้ผู้อื่นเชื้อเห็นคล้อยตาม และนึกคิดตามเช่นบอกให้จิตออกจากร่างไปที่นั่นที่นี่ได้โดยที่ร่างกายไม่ได้ ไปด้วย และมีอยู่บ่อยครั้งผู้ถูกสะกดจิตและถูกจูงจิตไปรู้สึกสบายที่ได้จิตได้ไปทำ เช่นนั้น โดยในชีวิตจริงไม่สามารถทำได้เลย บางครั้งก็ทำให้ยึดติดเป็นอุปาทาน ว่าเป็นสิ่งอัศจรรย์คนที่จะทำได้เช่นนี้ก็ต้องเป็นคนที่มีบุญญาธิการ จึงทำให้เกิดความเชื่อในตัวบุคคลสูงยิ่ง ทั้งให้ความเคารพบูชาและเลยมาในชีวิตจริงก็จะทำตามด้วย ไม่ว่าจะบอกให้ทำอะเไร ก็คิดว่าดีไปเสียหมดก็เป็นที่มาของการหลอกลวงทางจิต


บางคนถูกหลอกลวงทางจิตให้เลิกกับสามี,ภรรยาที่เคยอยู่กิน กันมานานหลายปีจนมีลูกโตๆ กันแล้ว บางคนก็ยอมกายถวายชีวีให้ เสียเงินทรัพสมบัติเท่าไรก็ยอมทั้งนั้น อาจทำให้ถึงกับทำให้เปลี่ยนพฤติกรรมดูเพี้ยนๆไปก็มี เพียงเพื่อเชื่อว่าจะ เป็นไปตามที่ถูกจูงจิตไว้ มีอยู่กรณีหนึ่งที่เคยเกิดขึ้นที่หน้าเขามหาชัยแห่งนี้ที่เราเคยเชิญ่ คุณผัน วิสูตร มาสะกดจิตหมู่ให้นักศึกษาและอาจารย์ ผู้ที่มีจิตอ่อน(จะหมายถึงจิตที่บริสุทธิ์พร้อมที่จะเชื่อจะรับอะไรได้ง่าย) มักจะถูกจูงจิตไปไหนต่อไหนได้ง่าย เคยถามนักศึกษาที่ถูกสะกดจิตไปในอนาคตว่าเป็นอย่างไรในอนาคต ได้รับคำตอบว่าจะกลับมาเป็นอาจารย์ที่หน้าเขาแห่งนี้ ผมก็เฝ้ารอจนบัดนี้ก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะกลับมาเป็นอาจารย์ตามที่ถูกสะกด จิตไป
มีอยู่เรื่องหนึ่งผู้ถูกสะกดจิตเป็นเหมือนกับการถูกหลอก ซ้ำสอง เพราะผู้ที่ถูกสะกดจิตพร้อมๆกันทีละหลายคน บางคนถูกจูงจิตให้ไปในที่ต่างๆ ไปในอนาคต คนที่จิตแข็งถูกสะกดจิตอย่างไรก็ไม่ถูกจูงจิตก็แค่สลึมสลือจะหลับ เห็นเพื่อนตื่นขึ้นมาเล่าให้ฟังว่าไปไหนต่อไหนตามที่ถูกจูงจิตไป คนที่จิตแข็งที่ไม่ได้ถูกจูงจิตไปเหมือนเพื่อนก็ใช้วิธีอำทางจิตหรือหลอกลวง ทางจิตเพื่อผลประโยชน์ให้เพื่อนสาวได้เห็นใจชอบรัก โดยบอกเพือนสาวไปว่า "ตอนที่ถูกสะกดจิตไปในอนาคตนั้นเราเป็นแฟนกันและรักกันมาก "  ผู้เขียนไม่ได้ติดตามผลว่าเขาเป็นแฟนกันจริงในเวลาต่อมาหรือไม่ ถึงขั้นได้แต่งานกันหรือเปล่า

อวดเรียกร้องความสนใจ

การ จัดทำเว็บไซต์ โดยเฉพาะในหน้าโฮมเพจซ์อันเป็นหน้าแรกของเว็บไซต์ มักจะบ่งบอกให้ทราบว่ามีเนื้อหาหลักใดที่นำมาเสนอ หรือมีอะไรที่จะบอก แจ้งให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมได้ทราบ ว่าเข้ามาเว็บไซต์นี้แล้วทำอะไรได้บ้าง โดยสรุปเกือบทั้งหมดที่จัดทำเว็บไซต์ขึ้นมานั้น ก็ต้องมีอะไรที่จะแบ่งปัน หรือจะแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน ถ้าไม่มีอะไรจะบอก ไม่มีอะไรจะแสดงหรือโชว์ ก็ไม่รู้ว่าจะทำเว็บไซต์ไปทำไม โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีดีอะไรก็ต้องโชว์กันหน่อย


เมื่อวานนี้ขณะขับรถยนต์ฟังโฆษณาเรื่องหนึ่งจากวิทยุ นึกไม่ถึงว่าจะกล้าโฆษณากันขนาดนี้แล้ว เริ่มจากสนทนา   "วันนี้นุ่งสั้นจังเลยนะ (นุ่งสั้นจุดจู๋)"  มีเสียงตอบกลับมาว่า
          "ก็มั่นใจเชื่อมั่นด้วยครีม.....มีส่วนผสมของ.....และ.....ที่ช่วยลบ ลดผิวแตก ผิวด่างดำ" นัยตามโฆษณานี้ ก็เพื่อให้โชว์สรีระร่างกายได้อย่างมั่นใจ นั่นก็ต้องมีดีโชว์ การโฆษณาเช่นนี้ไม่ได้แยกแยะผู้ฟังว่าเป็นเด็กเล็กเด็กใหญ่ และไม่ได้ชี้ให้เห็นโทษภัยที่อาจเกิดขึ้น เพราะบางครั้งเราจะเห็นอยู่่บ่อยครั้งที่การแต่งกายไม่เหมาะสมกับกาละเทศะ ซึ่งอาจจะขัดกับการเป็นกุลสัตรี แต่ไม่ขัดกับผู้ที่ชอบดูทั้งหญิงและชาย และเป็นธรรมดาสำหรับผู้ถูกมองที่เรียกร้องความสนใจให้คนมองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชีพดารา นักร้อง เพราะต้องการให้เป็นที่รู้จักมากๆ งานจึงเข้า เป็นธรรมดาที่คนเราต้องแต่งตัว ที่ดีอยู่แล้วก็จะช่วยเสริมจุดแข็งให้ดียิ่งขึ้น ที่เป็นจุดอ่อนก็แก้ไขเพื่อให้ดีขึ้นได้ และเป็นธรรมดาที่ทุกคนต้องแต่งตัวให้ดูดีตามความรู้สึกชอบของตัวเอง และยิ่งผู้อื่นบอกว่าดูดีก็ยิ่งมีความพอใจแสดงว่าส่วนลึกจริงๆ แล้วคนเรามีอะไรดีอยู่บ้างก็อยากโชว์ทั้งสิ้น

การหาความสำเร็จจากความรู้

ใน โครงสร้างที่นำไปสู่ปัญญา เริ่มจากข้อมูล สารสนเทศ ความรู้ และ ปัญญา จะเห็นว่าความรู้จะมีได้ก็ต้องมีข้อมูลและสารสนเทศมากก่อนที่นำมาประมวลก่อ ให้เกิดความรู้ที่ประกอบด้วยมโนทัศน์ต่างๆที่มีความสัมพันธ์กันระหว่าง มโนทัศน์อย่างง่ายไปจนถึงขั้นที่มีความซับซ้อน การแสดงถึงความสัมพันธ์ดังกล่าวก็เป็นเหมือนกับระบบนิเวศซึ่งก็คือความรู้ นั่นเอง
  บนความสำเร็จของงานจะต้องมีการระดมส่งเสริมให้มีการคิด ค้นหาแนวทางเพื่อการสร้างนวัตกรรมและการจัดการแนวใหม่ กลุ่มบุคคล องค์กรจะต้องมีแผนงานหรือกลยุทธ์ที่เหมาะสมในการสร้างสรรค์นวัตกรรมของตนเอง ดังนั้นจึงต้องมีการสังเคราะห์ความรู้ที่ฝังลึกในตัวคน นำไปยกระดับให้สูงขึ้น การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การสะกัดความรู้ออกจากตัวคน ซึ่งจะต้องมีเวทีที่ช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน ส่งผลให้เกิดความรู้ใหม่และพัฒนาเป็นนวัตกรรมในด้านต่างๆ รวมทั้งการเรียนรู้ การพัฒนาองค์กรและเทคโนโลยี

ระบบนิเวศกับความรู้

ใน โครงสร้างที่นำไปสู่ปัญญา เริ่มจากข้อมูล สารสนเทศ ความรู้ และ ปัญญา จะเห็นว่าความรู้จะมีได้ก็ต้องมีข้อมูลและสารสนเทศมากก่อนที่นำมาประมวลก่อ ให้เกิดความรู้ที่ประกอบด้วยมโนทัศน์ต่างๆที่มีความสัมพันธ์กันระหว่าง มโนทัศน์อย่างง่ายไปจนถึงขั้นที่มีความซับซ้อน การแสดงถึงความสัมพันธ์ดังกล่าวก็เป็นเหมือนกับระบบนิเวศซึ่งก็คือความรู้ นั่นเอง

ตามทฤษฎีของความรู้ ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์เป็นความรู้ที่ประกอบขึ้นจากหลักความจริงทางตรรกะ สามารถทดสอบได้ด้วยการสังเกต หรือการทดลอง หรือทั้งสองอย่าง เพื่อพิสจน์ยืนยันสมมุติฐานที่คาดการณ์ไว้สำหรับอธิบายปรากฏการณ์ และทำนายปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่างๆ การศึกษาในลักษณะนี้ก่อให้เกิดความรู้ใหม่ การมีความรู้ใหม่ส่งผลให้เกิดนวัตกรรม ซึ่งก็เป็นอะไรก็ได้ที่ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุง ประดิษฐ์คิดทำขึ้นมาใหม่เพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่ม

sassy girl หนังรักไม่โรแมนติก

เมื่อ วานนี้ได้เขียนบล็อกในลักษณะของการสร้างเว็บไซต์ว่ามีดีต้องโชว์เรียกร้อง ความสนใจ แต่เมื่อได้ดูหนังรักไม่โรแมนติกเท่าไหร่ ฉากแสดงความรักความใคร่ไม่มี แต่งตัวล่อแหลมวอมแวมก็ไม่มี จะมีบทจูบอยู่บางก็ตอนจบเรื่อง อาจเป็นไปได้ว่าว่าภาพยนต์เรื่องนี้ ส่วนใหญ่เหตุเกิดในหน้าหนาว  เรื่องของความรักในหนังเรื่องนี้ ที่น่าสนใจตรงที่บางครั้งความรักไม่ได้มีเหตุผลใดๆ  จะมีใจให้กันแล้วละก็ยอมได้ทั้งนั้น โดยเฉพาะพระเอกของเรื่องที่เป็นสุภาพบุ รุสมากๆ พบสาวก็สาวเป็นลมใส่เอาเพราะเมา จะทิ้งไว้ก็กระไรอยู่ก็ต้องแบกกลับมาหอพัก ต้องยอมรับโทษที่ฝ่าฝืนกฏหอพัก จากนั้นความสัมพันธ์เป็นไปในลักษณะที่ผู้ชายมักจะยอมตามผู้หญิงเสียมากกว่า ก็เพราะรักนั่นเอง


พล็อตของหนังมีส่วนคล้ายกับภาพยนต์ที่มีคุณค่าแก่ความทรง จำ เช่นเรื่อง Affair to remember, sleepless in seattle ซึ่งมีการนัดหมายกันที่ตึกเอมไพร์สเตต แต่สำหรับเรื่อง sassy girl มีการนัดหมายกันแปลกออกไปที่ให้ต่างคนเขียนจดหมายแสดงความรู้สึกส่วนตัวต่อ กันแล้วนำจดหมายไปเก็บไว้ในที่ที่นัดแนะกันเอาไว้ และกำหนดว่าหลังจากนี้อีก 1 ปีต่างก็จะมาเปิดจดหมายออกอ่านดู  หลังจากแยกกันไปหนึ่งปีอีก ฝ่ายชายก็มาตามนัดมาหาจดหมายอ่านดูก็ทำให้รู้ความจริงว่า ทำไมฝ่ายหญิงจึงได้แสดงตัวประพฤติตัวอย่างนั้น ก็ยิ่งทำให้มีใจมากขี้นอีก ฝ่ายหญิงไม่ได้มาตามนัดแต่มาในอีกวันหนึ่งไม่ได้พบกันในตอนนั้น แต่ด้วยความรักที่มีต่อกันสุดท้ายก็จบลงด้วยความสุข


ที่เล่าเรื่องย่อๆของภาพยนต์เรื่องนี้นั้น เพราะเป็นเรื่องของความรักล้วนๆ ไม่มีส่วนของอิจฉาริษยาให้เห็น การแต่งกายเรียบร้อยไม่ต้องโชว์สรีระเรื่อนร่างเพื่อดึงดูดใจเรียกร้องความ สนใจ แต่ด้วยท่างหน้าตาที่สะสวยน่ารักของผู้หญิงก็เกินพอ การแสดงบ่งให้เห็น ถึงความรักความห่วงใจ ความเข้าใจของความรักว่าไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ยังรัก ทำให้คิดว่าความรักเป็นเหมือนพรหมลิขิต แม้ว่าจะมีบ้างคนแย้งว่าความรักสร้างได้กำหนดได้ก็ตาม

พืชสมุนไพรป้องกันรักษาสารพัดโรค

ได้ นำเสนอพืชสมุนไพรที่ใช้ในการบำบัดรักษา ป้องกันบรรเทาโรคได้สารพัดโรคมาแล้ว 2 ชนิดคือ ต้นสมเสร็จและมีอยู่ทั่วไปบริเวณลุ่มน้ำปากพนัง อีกชนิดหนึ่งกำลังเป็ยยอดฮิต เป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ได้แก่้ต้นมะรุม โดยเฉพาะมะรุมน่าจะจัดเป็นพืชมหัศจรรย์ เพราะเป็นทั้งอาหารที่มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์สูง และเป็นตัวยารักษา ป้องกันโรคสำคัญได้เกือบหมด ขณะนี้มีการนำใบตากแห้งมาบดใส่แค็ปซูลขายกันตามร้านขายยาทั่วไปแล้ว


วันนี้อยากจะนำเสนอพืชสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งคือว่านพญาวารน ร หรือที่เวียดนามนำไปปลูกขึ้นชื่อเป็นที่นิยม จนคนไทยไปเอามาอีกทีก็มี โดยให้ชื่อว่า ฮวานฮก (ฮะวานฮก) ที่ดูจาก การนำเสนอของผู้ที่เพราะพันธ์ต้นกล้าขาย แล้วสรรพคุณไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ามะรุมเลย จะด้อยก็แต่เรื่องสารอาหารที่มีอยู่ในพืชชนิดนี้ แต่ก็มีจุดเด่นที่ตามที่โฆษณาก็คือเน้นกล่าวถึง การเป็นอาหารยาอายุวัฒนะ ถ้าหากรับประทานใบพืชสมุนไพรชนิดนี้สดๆ เป็นประจำแล้วก็จะดูอ่อนกว่าวัย สมรรถนะทางร่างกายก็จะเพิ่มสูงขึ้น ผิวพรรณจะดูสดใสแต่งตึงขึ้นกว่าเดิม โดยทั่วไปการใช้พืชสมุนไพรแทบไม่มีสารตกค้างในร่างกาย ที่จะเป็นพิษกับร่างกายต่อมาภายหลัง แต่ก็อย่าวางใจไปทั้งหมด เพราะอาจจะมีสารออกฤทธิ์บางอย่างที่ไปทำให้อาการของโรคแย่ลงก็ได้ เช่นในมะรุมก็มีคำแนะนำว่าไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคฉี่สีเข้มน้ำตาลเป็นต้น

ผลการทำอาณาปนสติ

ตามพระ ไตรปิฏกได้กล่าวไว้เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าสำหรับผู้ที่เจริญอาณาปนสติ หรือผู้ที่ฝึกฝนฝึกจิตโดยการใช้ลมหายใจเป็นเครื่องมือ โดยกำหนดให้มีสติกำกับทุกลมหายใจเข้าออกในอิริยาบทต่างๆ แล้ว เช่นให้รู้สึกตัวเมื่อหายใจออก และก็รู้สึกตัวเมื่อหายใจเข้าในกรณีต่างๆ แล้วเมื่อฝึกให้มากๆ แล้ว ย่อมเกิดผลใหญ่หรือมีอานิสงส์ใหญ่ ที่ทำให้สติปัฏฐานทั้งสี่มีความสมบูรณ์


การที่ทำให้สติปัฏฐานทั้งสี่สมบูรณ์นั้นก็คือทำใจให้มี สติกำกับดูแลซึ่งมีอยู่ 4 ฐานจึงเรียกว่าสติปัฏฐาน4 โดยในฐานที่ 1 เป็นการรู้ลมหายใจหรืออาการเคลื่อนไหวของกาย ฐานที่2 เป็นการรู้เห็นการกระทำของความคิด ความรู้สึกที่จะขจัดความคิดออกไป ฐานที่3 รู้เห็นถึงความสงบของจิตใจ หรือเห็นความว่างเปล่า และฐานที่4 เป็นการกำหนดปัจจุบันที่เป็นอยู่ในขณะหนึ่งขณะใดในทันที
เมื่อทำให้ฐานทั้ง4ครบบริบูรณ์และทำให้เจริญมากขึ้นก็ ย่อมทำให้เกิดโพชฌงค์ทั้ง7ครบบริบูรณ์ และเมื่อทำให้มากปฏิบัติให้มากให้ก้าวหน้าต่อไปแล้วก็ย่อมทำให้มีวิชชาและวิ มุติสมบูรณ์และก้าวหน้าขึ้น ก้าวเข้าสู่ความหลุดพ้นและนิพพานอันเป็นเป้าหมายในทางพระพุทธศาสนา

หาเรื่องขำ

วันหยุดก็อยากเล่าเรื่องโจ๊กฝรั่งบ้าง  เรื่องมีอยู่ว่า
มีสามีภรรยาคู่หนึ่ง มีอยู่ครั้งหนึ่งโกรธกันเรื่องอะไรไม่ทราบได้ ก็ไม่ยอมพูดคุยกัน
ฝ่ายสามี ก็ไม่อยากเสียฟอร์มที่จะต้องพูดกับภรรยาก่อน ก็เลยใช้วิธีเขียนแทน ไว้ว่า
" พรุ่งนี้ ตี 5 ช่วยปลุกด้วย " 
ปรากฏว่าตื่นขึ้นมาเวลา 8 โมงเข้า ภรรยาไม่ได้มาปลุกทำให้พลาดเครื่องบินที่จะไปทำธุระ
แต่เมื่อเดินไปที่ข้างเตียงก็พบโน้ตจากภรรยาเขียนไว้ว่า
"นี่คุณเวลา ตี5 แล้ว ตื่นได้แล้ว"

อัฟเดทเครื่องดูหนังฟังเพลง

ได้เขียนบล็อกที่เกี่ยวกับเครื่องดูหนังดูวิดีโอไว้ว่า ได้มีการปรับปรุงพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจอภาพที่ใช้เป็นที่ดูหนังหรือวิดีโอ ให้สามารถแสดงรายละเอียดมากขึ้น ซึ่งทั้งเครื่องที่ใช้เล่นวิดีโอหรือที่เรียกว่าดีวีดีเพลเยอร์ (dvd player) และจอภาพล่าสุดนั้นให้ความละเอียดมากยิ่งขึ้น มีจำนวนเส้นมากขึ้นถึง 1080 เส้น ถ้าว่ากันถึงจำนวนจุดถึง 2 ล้านพิกเซล  รองรับการใช้งานในระบบดิจิทัลที่แท้จริง ผ่านทางพอร์ทการเชื่อมต่อที่เรียกว่า HDMI ซึ่งให้ความละเอียดคมชัดขึ้นแม้จะเล่นกับแผ่นหนังหรือวิดีโอในระบบดีวีดี เดิมที่เคยใช้กันอยู่เดิม


แต่ในความเป็นจริงนั้นยังไม่ได้ใช้ความสามารถตาม คุณสมบัติสูงสุดที่ควรจะเป็น เพราะยังใช้กับแผ่นวิดีโอรุ่นเก่า แต่ถ้าใช้กับแผ่นดีวิดีที่จัดทำให้ได้คุณภาพเต็มประสิทธิภาพแล้วจะคมชัดมาก ยิ่งขึ้นอย่างเด่นชัด ซึ่งเครื่องเล่นที่ว่านั้นก็คือเครื่องเล่นบลูเรย์ที่สามารถเล่นหนังวิดีโอ ได้คมชัดเต็มประสิทธิภาพ 1080 เส้นจริงซึ่งจะเห็นความแตกต่างได้จริง อย่างไรก็ตามแผ่นหนังวิดีโอที่ใช้ในระบบบลูเรย์นั้นยังมีราคาแพง แต่ละเรื่องก็ราคามากกว่า 1000 บาทขึ้นไป และเครื่องเล่นบลูเรย์ก็ยังราคาแพงในระดับหมื่นกว่าบาทขึ้นไป  เชื่อว่าเมื่อราคาลดลงบ้างคงจะได้ดูหนังวิดีโอที่มีรายละเอียดสูงที่เรียก ว่า Full HQ จริงๆ
การพัฒนาจอภาพเพื่อให้รองรับความคมชัดและความนิ่มนวลมาก ขึ้น ก็ได้แก่การเพิ่มความถี่ในการนำเสนอภาพ จากที่เคยมีความถี่แค่ 200Hz ก็เพิ่มเป็นความถี่ถึง 600Hz ก็ได้ไปสอบถามกับพนักงานที่แนะนำ ก็ได้รับคำอธิบายว่า เมื่อก่อนการดูวิดีโอนั้นจะใช้จำนวนเฟรมภาพประมาณ 16 ภาพต่อวินาทีเราก็ดูไม่ออกแล้วว่าเกิดจากการนำภาพมาต่อกัน แต่ที่บอกว่าไม่นิ่มนวลนั้นก็คือถ้าหากเป็นภาพเคลื่อนไหวที่มีความเร็ว เราจะมองว่าไม่ค่อยคมชัดเท่าไร แต่ถ้าในระบบ 600Hz มีจำนวนภาพต่อวินาทีเพิ่มสูงมากขึ้น ทำให้ภาพมีความคมชัดไม่กระตุกสำหรับภาพ ที่เคลื่อนไหวเร็วๆ แต่เท่าที่เห็นวางจำหน่ายก็มีอยู่ในจอภาพแบบพลาสม่าที่สามารถทำได้


สำหรับเครื่องเล่นวิดีโอ นั้นก็ยังมีแบบลูกผสมคือสามารถ เล่นได้ทั้งระบบดิจิทัลและแอนะล็อกแบบเดิม เพิ่มความคอมชัดแบบวิดีโอคอมโพไซด์ และ s video แต่ถ้าเป็นวิดิโอที่ออกจากพอร์ต HDMI ก็จะเป็นสัญญาณดิจิทัลที่มีความคมชัดกว่า รุ่นหลังๆ อาจตัดวิดีโอแบบคอมโพไซต์และ s video ออกไปเลย ข้อที่น่าสังเกตอีกอย่างก็คือเกี่ยวกับสัญญาณเสียง ที่ต่อออกจากเครื่องเล่น ถ้ามีช่องเสียงออกมาแบบรอบทิศตามระบบเสียง 5.1 ก็จะมีจุดเชื่อมต่อลำโพงคู่หน้า คู่หลัง  กลาง และยังมีซัพวูฟเฟอร์อีก ก็คงต้องมีลำโพงและเครื่องขยายกันหลายตัว  นอกจากว่าซึ้อเป็นชุดที่จัดให้มาเกือบหมด

ภาพยนต์ในกระแส

ภาพยนต์ ที่กำลังจะมาเข้าฉายที่บ้านเรา ที่ได้ไปดูตัวอย่างมาสองเรื่อง คือเรื่องแรกคือเซอร์โรเกต (surrorgate)  และอีกเรื่องหนึ่งคือ 2012  เรื่องแรกเป็นภาพยนต์ที่นำแสดงโดย บลูส วิลลิส เป็นภาพยนต์ไซไฟ โลกมนุษย์ที่มีบริษัทรับทำโคลนนิ่ง โดยตัวเองอยู่กับบ้านไม่ต้องไปไหน แต่มีโคลนนิ่งของตัวเองออกไปทำอะไรต่ออะไรนอกบ้านได้  แม้ว่าได้รับอันตรายอย่างไร ตัวจริงก็ยังอยู่ไม่เป็นอันตรายอะไร  เรื่องของเรื่องที่ได้เกิดมีปัญหาขึ้นมาก็คือ ตัวโคลนนิ่งที่ออกไปทำอะไรนอกบ้านเมื่อได้รับอันตรายถึงตายขึ้นมาทำให้ตัว จริงที่อยู่บ้านเกิดตายจริงขึ้นมา ทำให้พระเอกของเราคือบลูสวิลลิสต้องออกไปสืบหาให้ได้เป็นเพราะมีอะไรผิดพลาด


ส่วนเรือง 2012 เป็นเรื่องที่จินตนาการขึ้นถึงวันที่โลกแตกจริงๆ ตามคำทำนายของน็อตตราดามุส ดาราแสดงนำคือจอห์น คูแซก ที่มีการคาดเดาว่าจะมีอุกาบาตมาชนโลกแล้วก็ให้เกิดภัยพิบัติทำลายล้างโลก เกิดแผ่นดินไหวไฟไหม้ไปทั่ว จนแทบไม่มีคนรอดชีวิต ต่างจากเรื่องอามาเกตดอน ที่อุกาบาตชนโลกเหมือนกันแต่คนไม่ได้ตายโลกไม่ได้แตกสลายเหมือนคราวนี้  ฉากแต่ละฉากตื่นเต้นเฉียดฉิว เหมือนอยู่ในเหตุการจริง โดยเฉพาะการทำตัดต่อวิดิโอด้วยคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ได้เหมือนจริงมาก ถ้าได้ดูให้จบเรื่องคงจะให้ความรู้สึกเหมือนกับอยู่ในเหตุการ  ภาพยนต์ทั้งสองเรื่อง เป็นเรื่องการจิตนาการที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แนะน่าตื่นเต้นถ้าได้ดูทั้งเรื่อง

Sunday, November 15, 2009

กอบกู้ความหวังสู่อนาคต

คนเรามักจะมีความคาดหวังในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะให้เป็นไปในแนวทาง เอาดี เอาเด่น เอาก้าวหน้า  เมื่ออยู่ในสถานะการณ์บางอย่างไม่อาจจะหวังอะไรได้เลย ไม่สามารถที่จะคิดสร้างสรรค์ได้อย่างอิสระ ไม่สามารถที่จะสร้างจิตนาการ ด้วยสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย อาจมีส่วนทำให้คนหยุดคิด หรือคิดได้เพียงแต่เพื่อความอยู่รอด แต่จะให้มีคุณภาพชีวิต นั้นจำเป็นต้องรื้อฟื้นกอบกู้ความหวังให้เกิดขึ้นอีก นั่นเราต้องเริ่มสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อให้สร้างความหวังที่เป็นไปได้

หันมาสังเกตสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น

เพื่อให้ความคิดมีความชัดเจน จากประสบการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เราจะมีประสบการณ์ก็เมื่อเราเข้าไปมีส่วนร่วมในความสัมพันธ์อย่างใดอย่างหนึ่ง คุยกับคนที่รู้จักโดยรอบ  ทดลองกับบางสิ่งบางอย่าง เพื่อสังเกตว่าเป็นอย่างไร รู้สึกอย่างไรให้ผลอย่างไร สังเกตถึงการเปลี่ยนแปลง และคิดว่าเราหวังที่จะเห็นอะไรเปลี่ยนแปลง อะไรก็จะง่ายขึ้นถ้าเรารับฟังกัน ซื่อตรงและเคารพต่อกันในการเข้าไปมีความสัมพันธ์

ถาวะโลกร้อนที่ไม่ธรรมดา


ใน บล็อกที่ฝนไม่ตกในวันลอยกระทงนับเป็นเรื่องแปลก แต่พอเขาสู่อีกวันฝนก็เริ่มตกติดต่อกันจนถึงวันนี้ จากที่คาดว่าถ้าฝนไม่ตกก็จะนับว่าเป็นปีที่แห้งแล้งมาก  อย่างไรก็ตามฝนก็ตกลงมาทำให้บางท้องที่น้ำท่วม ถนนบางสายรถไม่สามารถวิ่งได้ ขณะนี้ฝนก็หยุดตกไปแล้ว ที่คาดเดาว่าฝนจะตก น้อยและแห้งแล้งในปีนี้ก็ต้องรอดูต่อไป แต่ก็มีกระแสว่า ถ้าไมแล้งมากก็ฝนก็จะตกมากกว่าปกติน่าจะน้ำท่วมใหญ่ในปีนี้ก็เป็นได้


อย่างไรก็ตามผลกระทบจากภาวะโลกร้อน สำหรับประเทศไทยได้รับผลกระทบไม่มากนัก แต่ถ้าคิดง่ายๆ ว่าปริมาณน้ำแข็งแถบขั้งโลกละลายมากก็ย่อมมีน้ำระเหยกลายเป็นไอหมุนเวียน ขึ้นสู่บรรยากาศ ประกอบกับทะเลมหาสมุทรในบริเวณนั้นได้รับความร้อนมากขึ้นเพราะน้ำแข็งละลาย ไปเกือบหมด ทำให้ไม่มีการสะท้อนรังสีความร้อนออกไปนอกโลก มีผลทำให้เกิดพายุใหญ่มากขึ้นได้
จากการสำรวจไม่ไม่นานมานี้ว่าบ้านอาคารที่สร้างแถบขั้ว โลกนั้น คลอนแคลน ฐานรากยุบตัวอันเนื่องจากน้ำแข็งที่อยู่ใต้ดินละลายไปอย่างไม่เคยมีมาก่อน  และที่เกรงกันมากก็คือว่าน้ำแข็งถาวรที่อยู่ใต้พื้นดินนั้น ถ้าละลายมากขึ้นการปิดกั้นแกสมีเทนที่เกิดจากการสะสมจากการสลายตัวของพืชบาง ชนิดเช่นพวกมอส เพราะบริเวณนี้จะไม่มีต้นไม้ใหญ่เลย และแกสมีเทนนั้นมีคุณสมบัติเป็นแก สเรือนกระจกได้ดีกว่าแกสคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 20 เท่า ก็เท่ากับว่าจะทำให้โลกร้อนมากยิ่งขึ้นความแปรปรวนผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลง ภูมิอากาศ และการเกิดพายุใหญ่มากยิ่งขึ้น และมีหลายอย่างที่อาจเกิดขึ้นอย่างคาดเดาไม่ได้


กรณีปลา หอย ตายเป็นแพที่พัทยา แม้ว่านักวิทยาศาสตร์จะบอกว่ามีสาเหตุมาจากความไม่สมดุลของน้ำทะเลที่มีน้ำ จืดเข้าไปผสมมากเกินไป ทำให้สัตว์น้ำดังกล่าวตายไป ที่อาจมีผลมาจากการที่ฝนตกมากเกินไป  แต่ยังไงก็ยังอดไม่ได้ว่ายังน่ามีผลจากสาเหตุอื่นๆ และส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากความแปรปรวนของผลกระทบจากภาวะโลกร้อนส่วนหนึ่ง ด้วย  ซึ่งเราคงต้องตระหนักในเรื่องนี้และศึกษาให้ลึกซึ้งต่อไป

วิธีการเชิงระบบและวิธีการเชิงรุก

ปกติ แล้ววิธีการเชิงระบบนั้น เข้าใจว่าเป็นการมองปัญหาให้รอบด้านดูความสัมพันธ์ที่อาจมีผลต่อความสำเร็จ ในการดำเนินงานใดงานหนึ่ง โดยทั่วไปต้องมีการวิเคราะห์ปัญหา เพื่อพิจารณาค้นหาความต้องการ ความจำเป็น และทางเลือกใหม่ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพ เพื่อการพัฒนา และตั้งแต่เรามีแผนยุทธศาสตร์มาการใช้คำในการดำเนินงานตามแผนที่มีการกำหนด แนวทาง และวิธีการดำเนินการไว้ล่วงหน้าโดยไม่รอให้ปัญหาเกิดเสียก่อนว่าวิธีการเชิง รุก เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อแผนยุทธศาสตร์ ที่แปลตามตัวว่าแผนการรบ เพื่อการแก้ปัญหา เพื่อการพัฒนาให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ดังนั้นการแก้ปัญหาเชิงรุกจึงไม่ใช่การรุกรบจริงๆ แต่เป็นความพยายามที่จะแก้ปัญหาก่อนที่จะเกิดปัญหาจริงๆ หรือเป็นความพยายามที่จะสร้างสิ่งดีๆ ความพยายามที่จะก่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล อันนำไปสู่การพัฒนาด้านต่างๆ รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิต

การทำงานเชิงรุกไม่ใช่การแก้ปัญหาโดยการแจกเงินที่นักการ เมืองชอบใช้ช่วงหาเสียง แต่เป็นการใช้เงินเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน เสียมากกว่า ตัวอย่างงานกิจกรรมเชิงรุกที่มีการดำเนินการเช่นว่า สำหรับคนตั้งครรภ์ก็มีการแจกคู่มือการดูแลครรภ์ และการเลี้ยงดูเด็กอ่อนหรือทารก อาจระบุให้มีการสังเกตดูการพัฒนาการของเด็ก เมื่อมีอะไรที่ผิดปกติก็จะได้แก้ไขได้ทันหรือลดบรรเทาปัญหาลงได้ เช่นมีอาการแบบนี้ต้องไปพบแพทย์ อาจจะมีชุดฝึกกล้ามเนื้อทั้งผู้ตั้งครรภ์ และสำหรับเด็ก มีคู่มือสำหรับครู โรงเรียนเมื่อเข้าโรงเรียน และโรงเรียนรับให้เข้าเรียน

ที่ยกมาเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่ง ยังมีอีกหลายอย่างที่สถาบันอุดมศึกษาสามารถทำได้โดยการวิจัย เช่นเมื่ออายุ 35 ปีก็มีคู่มือสำหรับบุคคลวัยกลางคน ที่มีรายละเอียดว่าวัยนี้ควรจะดูแลสุขภาพใดบ้าง สำหรับคนวัย 50-60 ปีก็จะมีการเตรียมความพร้อมในการดูแลสุขภาพ เตรียมตัวสำหรับวัยเกษียณ และเมื่อเกษียณแล้วก็จะมีคู่มือสำหรับผู้เกษียณ และบ้านหลังใดมีคนที่อายุเกิน 60 ปีก็จะได้รับคู่มือการดูแลผู้สูงอายุ สำหรับบุตรหลานที่กำลังจะแต่งงาน ก็น่าจะมีคู่มือสำหรับคู่สมรส ให้ทราบรายละเอียดในสิทธิ์ ต่างๆ ตั้งแต่ของหมั้นสินสอด การจดทะเบียนสมรส ทำอย่างไรบ้าง มีคู่มือดูแลสุขภาพสำหรับคู่สมรส โดยไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล วันจดทะเบียนควรได้รับการดูแลสุขภาพ เมื่อคลอดลูกคนแรกก็ควรจะถามหาคู่มือการเลี้ยงดูเด็ก หรือรพ.ควรจะวางคู่มือไว้ มีวีดีโอ ดีวีดี เปิดดูได้สำหรับวิธีการเลี้ยงดูลูกไว้ให้ดู


เมื่อเริ่มมีฐานะที่จะสร้างบ้านได้ ในการสร้างบ้านก็ควรจะมีคู่มืออะไรบ้าง เพื่อให้ได้บ้านตามที่ตัวเองต้องการ และดูแลสิ่งแวดล้อมได้ เพราะเจ้าหน้าที่พนักงานผู้รับเหมา นั้นเขาจะทำตามแบบแปลน ฉะนั้นคนที่จะเป็นเจ้าของบ้าน ควรจะได้เตรียมการก่อนสร้างบ้าน หารูปแบบอันเป็นทางเลือกดีๆ วางแผนดูความเป็นไปได้ วิเคราะห์ความเสี่ยงเสียก่อน แล้วปัญหาต่างๆ ในชีวิตครอบครัวก็จะเกิดน้อยที่สุดอันเนื่องจากการใช้วิธีเชิงระบบและการแก้ ปัญหาเชิงรุกนั่นเอง

อินไซด์ทฤษฎีการสร้างความรู้ 2

ในการเรียนรู้ตามแนวการสร้างความรู้ สรุปเป็นหลักทั่วไปได้ 9 ประการดังนี้




1. การเรียนรู้ เป็นกระบวนการที่มีความกร์ตือรือร้นพร้อมที่จะเรียนรู้ อาศัยประสาทรับความรู้สึก เป็นส่วนนำเข้า และสร้างความหมายขึ้นมา


2. การเรียนรู้ต้องการความรู้เดิมที่มีอยู่แล้ว จากที่ Jean Piaget กล่าวว่า " ไม่มีโครงสร้างที่แยกต่างไปจากการสร้างขึนมา (constructivism)

3. การเรียนรู้สร้างระบบของความหมายขึ้นมา ทำได้โดยการเชื่อมโยงข่าวสารใหม่เข้ากับความรู้ที่มีอยู่เพื่อสร้างความรู้ใหม่


4. การเรียนรู่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมตอบสนองย้อนกลับตามที่ John Dewey กล่าวว่า "มีกิจกรรมทั้งแบบการเคลื่อนไหว และทักษะเชิงตรรกะ"


5. การเรียนรู้เกี่ยวข้องกับภาษา ตามที่ Lev Vygotsky ชี้ให้เห็นว่าภาษาและการเรียนรู้เกี่ยวพันธ์กันและกันอย่างไม่สามารถที่จะ แยกออกจากกันได้ นั่นคือภาษาที่เราใช้มีอิทธิพลหรือมีผลต่อการเรียนรู้ของเรา


6. การเรียนรู้เป็นกิจกรรมทางสังคม การเรียนรู้เกี่ยวพันธ์อย่างใกล้ชิดกับการเชื่อมโยงชีวิตมนุษย์อื่นๆ เช่นเพื่อนร่วมชั้น ครอบครัว ฯลฯ


7. การเรียนรู้คือบริบท (contextual) เราเรียนรู้ในความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกัน อะไรก็ตามที่เราทราบ อะไรที่เราเชื่อ อคติและความกลัวของเรา


8. การเรียนรู้คือกระบวนการ สำหรับการเรียนรู้ที่จะเกิดขึ้น นักเรียนจะต้องมีเวลาท่จะซึมซับสารสนเทศใหม่นำมาไตร่ตรอง และทดลองนำไปใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง


9. การเรียนรู้ที่มีความต้องการในการกระตุ้นตัวเอง (self-motivation) การกระตุ้นเป็ฯองค์ประกอบสำคัญในการเรียนรู้


อ้างอิง Epstein,2002, Principle of Learning.

อินไซด์ทฤษฎีสร้างความรู้1

ทฤษฎีการสร้างความรู้ (constructivism) เป็นทฤษฎีเกี่ยวกับความรู้และการเรียนรู้ อะไรที่รู้บ้างและการมเป็นผู้รู้ (come to know) ได้อย่างไร ตามทฤษฎีการเรียนรู้ของคนนั้นเป็นการสร้างขึ้น นั่นคือผู้เรียนสร้างความคิดใหม่ หรือมโนทัศน์ใหม่ ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ และความรู้ที่มีอยู่เดิม อันได้แก่ประสบการณ์และความรู้ที่มีอยู่แล้ว มีอิทธิพลต่อการสร้างความรู้ หรือการปรับเปลี่ยนความรู้ (Fosnot,1966)

ตามแนวการสร้างความรู้ได้เสนอแนะเราไว้ว่า มนุษย์มีรูปแบบการคิดทางกายภาพประจำตัว ซึ่งนำมาใช้ในการปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังมีองค์ประกอบทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมมีบทบาทสำคัญในการปรับ ปรุงการเรียนรู้และการพัฒนาการ

แนวคิดการสร้างความรู้ปฏิเสธแนวคิดที่จัดการเรียนการสอน เหมือนกับการสร้างเบ้าประทับ ที่สแตมป์(stamp)จากครูไปยังนักเรียน ที่ซึ่งความรู้ส่งผ่านหรือถ่ายทอดไปให้เหมือนต้นฉบับ ทัศนะการเรียนรู้ตามแนวการสร้างความรู้มองผูเรียนเป็นผู้เรียนรู้ที่อยาก เรียนรู้ มีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ โดยการเชื่อมโยง ปะติดปะต่อ การเรียนรู้ปัจจุบันกับการเรียนรู้ที่มีการสร้างขึ้นมาก่อน ในกระบวนการมีการเปรียบเทียบหาความสอดคล้อง ความไม่ลงรอย และมีการขยายขอบเขตความรู้ออกไป จากการเปรียบเทียบเป็นการตรวจสอบตีความของแต่ละบุคคลจากประสบการณ์ ที่ค้านหรือเห็นแย้งกับการเป็นผู้รับหรือถูกป้อนให้

เบา หวาน หาย เหม็ด คือ_สมุทรไพรแก้โรคเบาหวาน

สูตรรักษาโรคเบาหวานด้วยพืชสมุนไพรพื้นบ้านแบบบอกต่อ โดยชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าโรคนี้หายแน่นอน ดังนี้

เบา คือพืชสมุนแรกคือกะถินหรือต้นสะตอเบา


หวาน คือผักหวานเป็นผักพื้นบ้านอีกชนิด


หาย คือต้นหิ้งหาย(ตามเสียงภาษาใต้) มีดอกสีเหลืองเป็นพวงยาวสวยงาม มีฟักเล็กๆ คล้ายถั่ว

เหม็ด คือต้นเสม็ดใช้กิ่งหรือส่วนลำต้น

โดยการนำพืชแต่ละชนิด 5 อย่าง คือใบ ราก ดอก ลูกหรือผล และกิ่ง มาตากแห้งแล้วนำไปต้มกินน้ำดื่ม แล้วอาการของโรคก็จะเป็นไปตามชื่อคือ เบา หวาน หาย เหม็ด(หมด)

ปัจจัยกระทบต่อความมั่นคงด้านอาหาร

จาก การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ได้ข้อสรุปจากที่ประชุมอย่างหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับความมั่นคงด้านอาหาร ซึ่งคิดได้ว่าความมั่นคงด้านอาหารจะนำไปสู่ความมั่นคงด้านอื่นๆ ซึ่งโดยความมั่นคงด้านอาหารเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากการเป็นแหล่งอาหารที่อุดม สมบูรณ์ได้อย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตามเราทราบว่ามีองค์ประกอบหลายอย่างที่มีส่วนทำให้ความมั่นคงทาง อาหารต้องลดน้อยถอยลงไป เช่นว่ามีโรคที่มีอาหารเป็นสื่อเป็นต้น หรือไม่ก็ความอุดมสมบูรณ์ความหลากหลายของอาหารลดน้อยลงไป
มีเงื่อนไขสถานะการหลายอย่างที่มีผลต่อความมั่นคงทาง อาหาร เช่นพื้นที่ทางด้านการเกษตรที่ใช้เลี้ยงสัตว์ปลูกพืชอาหารลดน้อยลงไปขณะ เดียวกันพืชให้พลังงานกลับปลูกเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างย่ิงประเทศที่ไม่มี ทรัพยากรน้ำมันในธรรมชาติ ที่เห็นได้ชัดถึงผลกระทบด้านนี้ ก็คือปริมาณพืชสัตว์ที่เป็นอาหารที่วางจำหน่ายในตลาดที่เคยมีความหลากหลายก็ กลับลดชนิดและปริมาณลง เป็นการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพที่มีผลต่อความหลากหลายของอาหาร การเข้าถึงอาหารของชุมชน มีการพึ่งพาตัวเอง พึ่งพาตามธรรมชาติน้อยลงโดยเฉพาะชุมชนเมืองที่ใช้ชีวิตเร่งรีบและฝากชีวิต กับร้านอาหารสะดวกซื้อและฟาสฟูดแบบต่างๆ ทำให้อาหารยากต่อการควบคุม อาจมีภัยคุกคามที่ทำให้การควบคุมด้านอาหารทำได้ยาก
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศก็มีผลกระทบต่อผลผลิต การเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว ซึ่งเป็นผลปฏิกิริ ย าลูกโซ่ของภาวะโลกร้อน มีส่วนที่ทำให้พืชสัตว์ประจำถิ่นไม่สามารถเติบโตได้ตามปกติ เมื่อเทียบกับสัตว์พืชที่อุบัติเข้ามาใหม่ที่อาจไม่คุ้นเคยแต่เจริญเติบโต ได้ดีกว่า ในทางที่ใกล้เคียงกันสำหรับการเปิดเสรีทางการค้าที่ผลไม้และผลิตผลราคาถูก ทางเกษตรทะลักเข้ามา ทำให้มีผลกระทบต่อพืชผลพื้นเมืองที่ทำให้ราคาตกต่ำ เจ้าของสวน พืนที่ทางเกษตรจะไม่เอาใจปล่อยให้ทรุดโทรม และไม่ปลูกพืชเพิ่มขึ้น บ้างก็เปลี่ยนไปปลูกพืชพลังงานทดแทนซึ่งก็ยิ่งทำให้ความมั่นคงทางด้านอาหาร ลดลง
การที่เราทราบปัจจัยที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงด้านอาหาร ก็ทำให้เราสามารถหาแนวทางที่จะป้องกันหรือรักษาเยียวยาให้ความอุดมสมบูรณ์ กลับคืนมาได้บ้างแต่มันจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ตราบเท่าที่มนุษย์ยังไม่สามารถแก้ปัญหาในเรื่องสำคัญเช่นภาวะโลกร้อนที่เกิด จากน้ำมือของมนุษย์เอง

วิกฤติเป็นโอกาศและความหวัง

ใน ภาวะการทำงานในปัจจุบันเราคงจะประสบพบเจอปัญหามากมาย ที่อาจมีคำถามอยู่ในใจหรือบางคนก็อาจจะถามออกมาดังๆ บางคนก็ชี้ประเด็นปัญหาอย่างไม่มีข้อเสนอแนะก็เหมือนกับการบ่นกันไปมา อย่างไรก็ตามก็ยังมีความเชื่อว่า ทุกๆปัญหาที่มีก็ยังมีโอกาสให้เราหวังอยู่เสมอ เราสามารถสร้างสิ่งแตกต่างได้อย่างชัดจริง ด้วยความตั้งใจในคำมั่นสัญญาเล็กๆ ว่าจะทำอะไรให้ดีขึ้น ไม่จำเป็นว่าต้องไปทำไปเปลียนอะไรให้ดีหมดดูจะยิ่งใหญ่เกินไป ทำในสิ่งที่รัก ที่ชอบได้อีกหลายอย่างที่จะทำให้ที่ที่เราอยู่ ที่ที่เราทำงาน ดีขึ้นได้ทุกวัน เริ่มที่ตัวคุณเอง

มีคำตอบของปัญหามากมายที่ไม่หนักหัว ไม่ต้องใช้ความคิดมากมายนัก เริ่มจากที่ง่ายให้สำเร็จแล้วจะค่อยขยายไปสู่เรื่องอื่นที่ซับซ้อนขึ้นได้ เองโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก ไม่ต้องถึงกับต้องเปลี่ยนรูปแบบชีวิต เพราะเราสามารถสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้จากสิ่งที่เห็นว่าเล็กน้อยได้ถ้าหาก เรารวมพลังความคิดไปสู่เป้าหมายอันเดียวกัน แยกส่วนที่รู้ว่าเราเป็นส่วนใดในภาพรวมทั้งหมดและส่งผลใดต่อภาพรวม

ความสำเร็จ ความภาคภูมิใจอยู่ที่ผลงานที่มีประโยชน์ต่อผู้อื่น มีความเจริญงอกงามทั้งเชิงวัตถุและเชิงนามธรรม วิธีการที่จะให้ประสบผลสำเร็จจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องใช้พลั้งความคิด ความรู้ทักษะ ปัญญา อันเป็นความรู้ที่จะต้องได้รับการจัดการ ให้สอดรับกับปัญญา คน และเวลา จึงจะเป็นโอกาสที่มีความหวัง

มโนทัศน์การเปลี่ยนมโนทัศน์

ครู มีทัศนะต่อนักเรียนในการสร้างแนวคิดที่มีต่อโลกของพวกเขา มากกว่าจะเป็นการรับรู้มาเพียงอย่างเดียว นักเรียนเลือกที่จะเข้าสู่การเรียนรู้และตีความสิ่งที่พวกเขาอ่าน ได้ยิน และสังเกต ดังนั้นความรู้ที่นักเรียนสร้างขึ้นเป็นบางส่วนเท่านั้นที่มาจากสารสนเทศ ใหม่ที่ครูนำเสนอ ส่วนมากความเข้าใจของนักเรียนมาจากแนวคิดและรูปแบบการคิดที่พวกเขามีอยู่ แล้ว มากต่อมากประกอบด้วยฐานมโนทัศน์แบบซื่อไร้เดียงสาจากประสบการณ์ของแต่ละ บุคคลด้วยปรากฏการณ์และภาษาในชีวิตประจำวัน


บทบาทของครูที่เด่นชัดด้วยทัศนะนี้คือสะท้อนแนวคิดนัก เรียนที่มีในปัจจุบัน และแนวทางการคิดและวางแผนคำสอนให้สอดรับกันเพื่อนำทางนักเรียนในการสร้าง ความรู้อย่างเพียงพอมากขึ้น ตัวอย่างเช่นนักเรียนที่มีมโนทัศน์ที่ซีื่อไร้เดียงสา ที่เกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของวัตถุหนึ่งๆ ที่คิดได้ว่าต้องมีแรงมากระทำ การวางแผนและใช้กิจกรรมเพื่อท้าทายทัศนะนี้ ดังนั้นครูจึงใช้หลักฐานและการโต้แย้งในบริบทของการประยุกต์ ดังนั้นนักเรียนก็จะค่อยมีความเชื่อมั่นด้วยพลังเชื่อมั่นที่สูงกว่า และด้วยการรับผลพวงของแนวคิดใหม่
ส่วนหลักของครูใช้การเปลี่ยนแปลงมโนทัศน์มุ่งเน้นความ สนใจในสถานะปัจจุบันของแนวคิดของนักเรียน และความาสัมพันธ์กับเรื่อง มาตรฐาน ครูที่ใช้การเปลี่ยนมโนทัศน์โดยทั่วตัดสินเนื้อหาที่จะใช้สอน ซึ่งมีประโยชน์โดยตรงในการช่วยเหลือนักเรียนพัฒนาความคิดเฉพาะทางขึ้นมา ความเป็นเหตุผลก่อตัวขึ้นจากการพิจารณาทั้งโครงสร้างของเนื้อหาวิชา และแนวคิดปัจจุบันของนักเรียน รวมทั้งความเหมือนและต่างกันระหว่างเนื้อหาวิชาและแนวคิดของนักเรียน

มโนทัศน์การเปลี่ยนมโนทัศน์ ที่นักการศึกษามองลึกลงไปในเทอมขององศาที่นักเรียนเข้าไปมีส่วนร่วมและ ประยุกต์ความคิดพื้นฐานในแนวการคิดของพวกเขาเองเกี่ยวกับปรากฏการณ์ของโลกใน ชีวิตประจำวัน (Anderson, 1989)

5 นาทีพิทักษ์โลก

เรา ต่างก็มีภาระยุ่งกันอยู่เสมอ แต่เราก็ต้องเผชิญกับมัน เราคงไม่มีเวลามากพอที่จะไปฟาดฟันกับผูยังคงมีอำนาจและผู้ทรงอิทธิพล ที่ได้เคยทำร้ายทำลายอนาคตที่จะเป็นของลูกหลาน หรือคงไม่มีกำลังพอที่จะไปหยุดยั้งกลุ่มผู้ทำร้ายทำลายโลกที่เราอาศัยอยู่ ทุกเมื่อเชื่อวัน ก็เป็นกลุ่มที่ทำร้ายทำลายอนาคตของลุกหลานเหมือนกัน อย่างไรก็ตามเราก็ยังมีอะไรให้ทำอีกหลายอย่าง ที่สามารถทำให้อนาคตดีกว่านี้ อนาคตยังมาไม่ถึง ทำวันนี้ให้ดีที่สุดเพื่ออนาคตที่สดใสกว่าวันนี้ หรือทำวันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวานนี้ก็พอ

มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราสามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้ความ พยายามมากนัก หรือไม่ต้องคิดมากให้หนักหัว เราทุกคนยังสามารถทำในสิ่งที่แตกต่างเพื่อให้โลกใบนี้คงอยู่ต่อไปได้อีกนาน โดยไม่ทำให้มาตรฐานต้องเสียไป แนวทางที่เรากิน เราใช้ อยูอาศัย เคลื่อนไหว เดินทาง เราใช้น้ำ ใช้กระดาษ ทำความสะอาดร่างกาย บ้าน อาคารสถานที่ โรงเรียน วิทยาลัย มหาวิทยาลัย ทั้งหมดเหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้ว่าโลกที่เราอาศัยอยู่เป็นอย่างไร เราจะช่วยกันอย่างไรเพราะขณะนี้เราเป็นหนี้เด็กๆรุ่นหลังที่ทำให้โลกสีเขียว ลดน้อยถอยลง จนเกิดภาวะโลกร้อนก็ว่าได้ ต้องยอมรับว่าเป็นผลพวงของคนก่อนหน้านี้แน่นอน ไม่ได้ทำให้โลกสะอาดมีอนามัยที่ดีเท่าที่ทำได้ เท่าๆ กับที่เรามีเครื่องไม้เครื่องมือช่วยอำนวยความสะดวกสะบายทีเรามี ความรู้และปัญญาที่เรามี ยังมีโอกาสที่จะนำกระบวนการทั้งหลายไปสู่อนาคตที่สดใสกว่า แค่ขอเวลาแต่ละคนวันละ 5 นาที่คิดทำอะไรก็ตามที่ทำได้ช่วยให้สุขภาพโลกดีขึ้น เราคงต้องเปลี่ยนทิศทางที่เราเคยมุ่งหน้าไปอย่างไม่ได้คิดถึงชีวิตที่จะอยู่ ข้างหน้าเสียใหม่

คลายเครียดชวนขัน

ชาย 3 คนกำลังนั่งอยู่รอบโต๊ะตัวหนึ่งที่ปัตตาคารแห่งหนึ่ง อภิปรายกันถึงเรื่องการก้าวไปข้างหน้าของมนุษยชาติที่สร้างความก้าวหน้าใน ศตวรรษที่ 20



ชายคนหนึ่งพูดขึ้นว่า "ถ้าคุณถามผมว่า การประดิษฐ์อะไรที่เก่งฉลาดที่สุดในยุคสมัยเราต้องเป็นคอมพิวเตอร์แน่นอน โดยมองไปที่ความสามารถที่มันทำได้ เช่นการคำนวณ การพิมพ์เอกาสารด้วยเวิร์ดโปรเซสเซอร์ได้อย่างประหลาดแค่เพียงกดปุ่ม"



ชายคนที่สองพูดขึ้นบ้างว่า "การประดิษฐ์คอมพิวเตอร์เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ก็จริง แต่ก็ไม่ซับซ้อนเท่าจรวจนำวิถี โดยมันสามารถที่จะติดตามเป้าหมายได้ไม่ว่าไปที่ไหน"


ชายคนที่สามส่ายหน้าพร้อมกับพูดว่า "คุณทั้งสองยังไม่เข้าเค้านัก สิ่งประดิษฐ์ที่เก่งฉลาดมากที่สุดของศตวรรษที่ 20 น่าจะเป็นกระติกเทอร์มอส(thermos) "

"พนันได้เลยว่า มันสามารถเก็บสิ่งที่ร้อนให้ร้อนอยู่ได้ และ เก็บสิ่งที่เย็นให้เย็นอยู่ได้ ไหนบอกฉันมาซิว่า ..มันรู้ได้อย่างไรว่าอันไหนร้อนอันไหนเย็น"

การเป็นชาวพุทธและพระพุทธเจ้า

เมื่อถามว่าศาสนาพุทธ (Buddhism) คืออะไร คำตอบคือโดยหลักใหญ่เป็นเนื้อหาสาระของคำสอน ที่พระพุทธองค์โดยตัวบุคคลแล้วรู้จักกันในนามว่า Buddha ซึ่งเป็นคำที่โลกตะวนตกใช้เรียกพระพุทธเจ้า คำสอนที่ประทานมาให้แก่ประชาชนทุกหมู่เหล่าสำหรับแก้ทุกข์ และหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง ไม่ใช่มีแต่ Buddishm คำเดียวที่หมายถึงคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ เรียกอีกอย่างว่าธรรมะ (Buddha Dharma) ของพระพุทธองค์
เราจะเรียกแต่ละบุคคลว่าชาวพุทธ (Buddhist) เพราะ เพียงแต่เกิดจากพ่อแม่ที่เป็นชาวพุทธอย่างเดียวคงไม่ได้ ที่จริงแล้วชาวพุทธเป็นคนที่ไม่เพียงแต่มีความเชื่อในพระพุทธเจ้าอันเป็น เหมือนบรมครูที่ทรงคุณค่ามากที่สุด ที่ได้รับพระเมตตาจากพระองค์ที่ได้ให้หลักธรรมคำสอนในทางปฏิบัติเพื่อความ สงบสุข ระหว่างความเป็นพี่น้องร่วมโลกแล้ว ที่รวมถึงการประพฤติปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์ในชีวิตประจำวนอีกด้วย สำหรับชายที่นับเป็นชาวพุทธในทางศาสนากพุทธเรียกว่าอุบาสก และและที่เป็นผู้หญิงว่าอุบาสิกา
พระพุทธเจ้าไม่ใช่เพระเจ้า (god) จากหลักพระธรรมคำสอนไม่ได้สอนในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่จะดลบันดานอะไรได้ ก่อน ที่จะมาเป็นพระพุทธเจ้าก็ต้องบำเพ็ญเพียรเหมือนกับคนทั่วไป จนบรรลุธรรมตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าภายหลัง คำว่าพระพุทธเจ้าจึงเป็นสถานะเงื่อนไขทางจิต เป็นจิตหลังจากที่ได้เข้าถึงจุดสูงสุดของการพัฒนาแล้ว ซึ่งหมายถึงบุคคลที่มีปัญญาสมบูรณ์ที่เรียกว่า สัพพัญญู ดังนั้นจึงมีชื่อของพระพุทธเจ้าก่อนที่จะมาเป็นพระพุทธเจ้าคือเจ้าชายสิทธัตถะ ชื่อตระกูลโกตามะ (Gotama)

น้ำตกที่สูงที่สุดในโลก

ที่ ยอมรับกันเป็นทางการแล้วคือน้ำตก Angel ตั้งชื่อตามนักสำรวจ Jimmy angel ในบริเวณของแควสาขา Carrao ในเวเนซูเอลา (Venezuela) นับเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในโลก มีความสูงรวม 3,212 ฟุต หรือ 979 เมตร โดยมีจุดตกลงมายาวต่อเนื่องไม่ขาดตอน 2648 เมตร หรือ 807 เมตร การที่จะหาว่าความสูงของน้ำตกที่แท้จริงยังเป็นเรื่องที่ยากที่จะตัดสิน ลงไป เพราะว่าน้ำตกหลายที่ประกอบเป็นส่วนๆ ลดลั่นกันไป มากกว่าที่จะเป็นจุดตกของน้ำยาวลงในคราวเดียว เช่นน้ำตกที่สูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา คือน้ำตกโยเซไมท์ (Yosemite) อยู่ในแถบสาขาของลุ่มน้ำ Merced ในอทยานแห่งชาติ โยเซไมท์ รัฐแคละฟอเนีย โดยมีจุดที่น้ำตกยาวที่สุด 2425 ฟุต หรือ 739 เมตร ในชุดของน้ำตกนี้มีสามส่วน ส่วนบนของน้ำตกนี้ 1430 ฟุตหรือ 435 เมตร ส่วนตอนกลางสูง 675 ฟุตหรือ 205 เมตร และส่วนล่างของน้ำตกโยเซไมท์สูง 320 ฟุตหรือ 97 เมตร ถ้ารวมทั้งหมดก็จะสูงกว่าน้ำตก angel

เปรียบเทียบส่วนที่ลึกที่สุด

เรา เคยทราบมาว่าทะเลมหาสมุทรที่ลึกที่สุดในโลกอยู่ที่บริเวณหมู่เกาะฟิลิปบิน และความลึกนั้นเป็นความลึกที่มีมากกว่าความสูงที่สุดของภูเขาบนโลก คือยอดเขาเอเวอร์เรสที่มีความสูงมากกว่าหมื่นกว่าฟุตเท่านั้น สำหรับความลึกของทะเลสาปที่ลึกที่สุดเท่าที่มีการบันทึกไว้นั้น ไม่ได้ลึกมากเหมือนในมหาสมุทร ยังไม่สามารถเอาชนะความสูงของภูเขา ทะเลสาปที่ลึกที่สุดในโลกคือ ทะเลสาป Baikal อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของไซบีเรีย มีความลึก 5314 ฟุต หรือ 1620 เมตราที่ความลึกสูงสุดของทะเลสาป เมื่อเปรียบเทียบกับความสูงของยอดดอยอินทนนท์ ซึ่งมีความสูง 2500 เมตร แสดงว่าความลึกของทะเลสาปนั้นเทียบกันไม่ได้กับความลึกของทะเลมหาสมุทร อันชี้ให้เห็นว่าที่มาของการเกิดทะเลสาปกับมหาสมุทรนั้นแตกต่างกัน ทะเลสาปอยู่ในสัดส่วนที่เล็กกว่า ย่อมจะมีความลึกน้อยกว่า สำหรับความลึกของหุบเหวต่างๆ นั้นไม่ได้ลึกมากที่จะไปเทียบกันได้ กับความลึกของทะเลสาปและมหาสมุทรดังกล่าว

กลโกงที่ไม่ธรรมดา

ความ เจริญทางวัตถุของโลกเพิ่มสูงมากก็จริง การพัฒนาเพื่อหลอกลวงคนอื่นก็สูงเป็นเงาตามตัวไปด้วย เหมือนกบที่ดิวอี๋เคยกล่าวไวัว่า คนสามารถที่จะพัฒนาไปในทางที่ดี และที่เลวซึ่งตีความได้ว่า คนสามารถใช้ความรู้ความสามารถไปในทางที่ดีหรือที่เลว หรือนำไปใช้สร้างความเดือดร้อนผู้อื่น ไปในทางยักยอกทรัพย์ หรือใช้วิธีการหนึ่งวิธีการใดให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ไปให้กับผู้อื่นโดยไม่ถูก ต้อง
กลโกงที่ค่อนข้างเหนือชั้น ที่ผู้ถูกหลอกลวงก็ยังไม่แน่ใจว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรที่ได้ผล เรื่องการหลอกลวงที่ว่านี้ไม่ใช่บริษัทหลอกลวงประชาชน แต่เป็นประชาชนที่วางแผนกันเป็นกระบวนการในการโกงบริษัทประกันรถยนต์อย่าง แนบเนียน ที่กว่าจะจับได้ไล่ทันบริษัทประกันรถยนต์ก็เสียรู้ไปแล้ว โดยบุคคลกลุ่มนี้ได้วางแผนในการโกงด้วยการไปซื้อรถยนต์ใหม่เอี่ยมถอดด้ามจะ ด้วยวิธีการใดก็แล้วแต่และประกันรถยนต์ชั้นหนึ่งไว้กับบริษัทประกันแห่ง หนึ่ง จากนั้นก็นำรถยนต์ไปขายที่บริเวณชายแดนฝั่งลาวหรือเขมรอันเป็นประเทศเพื่อน บ้านของเรา แล้วมาแจ้งกับบริษัทประกันรถว่ารถหายไป ซึ่งตามกรมธรรม์ประกันชั้นหนึ่ง บริษัทประกันจะต้องจ่ายเงินค่ารถยนต์ที่หายเกือบเต็มราคาที่ซื้อมา เมื่อเจ้าของรถมาเคลมกับบริษัทประกันรถยนต์ กลโกงนี้ได้เงินสองทางจากการขายรถยนต์ และจากบริษัทประกันรถยนต์ การโกงนี้แต่ละคนคงทำได้ครั้งเดียว เฉพาะเจ้าของรถยนต์ ในการปฏิบัติการแต่ละครั้งต้องใช้ชื่อบุคคลที่แตกต่างกัน
ต่อไปการซื้อรถยนต์คงต้องมีการตรวจสอบกันมากขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าวเข้าใจว่าบริษัทประกันก็คงจะหาวิธีการเพื่อไม่ให้ เกิดกรณีเช่นนี้ ขณะนี้ใครประกันชั้นหนึ่งไว้ก็อาจถูกเพ่งเล็งมากขึ้น เช่นถ้ารถหายเร็วเกินไป หรือรถหายแบบไม่น่าหายแบบเจ้าของรถสมรู้ร่วมคิด ก็ต้องมีการสืบสวน กันจนแน่ใจหรือไม่ก็สามารถจับทีมผู้กระทำความผิดได้

สมองไอน์สไตย์

ไอ น์สไตน์ (Einstein) หลังจากเสียชีวิตได้นำมาหุ้มปิดทับด้วยซีเมนต์ ในวันที่ 8 เมษายนต์ ปี 1955 หมอที่ทำการวิเคราะห์หาสาเหตุการตายจากศพ (autopsy) ได้นำสมองของไอน์สไตน์ออกมา และมีส่วนหนึ่งของสมองอยู่ในขวด ที่แหน่งในเวสตันมิสซูรี (Weston,Missouri) อันเบิร์ตไอน์สไตน์ (1879-1955) เป็นบุคคลหลักที่เป็นผู้บุกเบิกก่อตั้งวิชาฟิสิกส์เชิงทฤษฎี ทฤษฎีสัมพันธภาพ ที่กำหนดให้แสงมีอัตราเร็วคงที่ และไม่สัมพันธ์กับผู้สังเกตหรือแหล่งกำเนิดแสง และความสัมพันธ์ระหว่างมวลและพลังงาน ตามสมการ E=MC^2 โดยรากฐานได้เปลี่ยนแปลงความเข้าใจของโลกทางกายภาพของมนุษย์ จากภาพของนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ ร่วมกับจุดยืนทางมนุษยธรรมที่แข็งเกร่งในเรื่องการเมืองสังคมที่สำคัญ ทำให้เขามีเชื่อเสียงที่โดดเด่นออกมา

Saturday, November 14, 2009

ผลของความเชื่อในเรื่องกรรม

ในเรื่องของกรรมหรือการกระทำของมนุษย์ นั้นเกี่ยวข้องกับการกระทำที่เป็นความดีความชั่ว บางครั้งเราพูดกันสั้นๆ ว่าทำอะไรได้อย่างนั้น เมื่อตีความก็หมายถึงว่า ถ้าทำความดีย่อมได้ดี ถ้าทำขั่วก็ย่อมได้ชั่ว แต่ที่คนไม่ค่อยเชื่อในเรื่องของกฏแห่งกรรมเพราะในทางปฏิบัตินั้นเรายังพบ ว่า คนที่ทำชั่วได้ดีมีถมไปนั่นเอง ก็เลยทำให้คนไม่ค่อยแน่ใจว่าจะทำดีได้ดีจริง ความไม่มั่นใจก่อให้เกิดความลังเล จึงขาดความมั่นใจในการทำความดีอย่างจริงใจ ซึ่งมีส่วนขัดขวางความก้าวหน้า ทั้งทางธรรมและทางโลก



สำหรับคนที่เชื่อในเรื่องกรรมนั้น อันดับแรกก็ต้องเชื่อและศรัธาในพระสัมมาสัมพูทธเจ้าว่าพระองค์ได้ตรัสรู้ รู้แจ้งเห็นจริงแล้ว แล้วเราก็ต้องศรัธาเชื่อว่ากรรมมีจริง เชื่อว่ากรรมที่บุคคลทำไม่ว่าดีหรือเลวย่อมให้ผลกลับมาเสมอ และเชื่อว่า สัตว์โลกทั้งหลายต่างมีกรรมเป็นของตัวเอง ผลที่ได้รับก็เป็นการกระทำของเราเอง อาจเป็นกรรมในชาติป้ัจจุบันหรือในอดีตชาติ


กรรมทั้งหลายให้ผลไม่เหมือนกัน ให้ผลเห็นได้ในชาติปัจจุบันและหรือให้ผลระยะยาวต่อไป ทุกคนมีโอกาสรับกรรมไม่เหมือนกัน เพราะทำกรรมมาไม่เหมือนกัน ความดีความชั่วที่ทำไว้ก่อนแล้วอาจยังมาไม่ถึง กรรมไหนหนักกว่าก็อาจมาให้เห็นก่อน คนที่มีความเชื่อและศรัธาในกรรม จะเป็นผู้ที่สามารถอดทน ยอมรับความทุกข์ยาก ความผิดหวัง เคราะห์กรรมที่เกิดขึ้นกับตนได้ ไม่ตีโพยตีพายว่าโลกไม่มีความยุติธรรมต่อตน เพราะกรรมบางอย่างให้ผลในชาติหน้าหรือชาติต่อๆไป ไม่มีใครกำหนดได้แต่ต้องได้รับผลกรรมแน่นอน ซึ่งไม่เป็นไปในลักษณะที่เป็น action immediatly ตามกฏข้อ 3 ของนิวตันที่เมื่อไรมีแรงกระทำย่อมมีแรงที่ตรงกันข้ามตอบโต้ในทันที

เรื่องของปลวกที่ไม่ธรรมดา

ตั้งแต่ พบครั้งแรกว่าปลวกมีชีวิตอยู่ในโลกก็ 200 กว่าล้านปีมาแล้ว ที่สามารถยืนยงมาได้ ปราบฆ่ายังไงก็ไม่หมด ต้องเสียงบประมาณในการปราบทำลายในแต่ละปีมหาศาล วงจรชีวิตของปลวกจึงไม่ธรรมดา
ปลวกมีน้ำย่อยเซลลูโลส เป็นเอมไซน์เซลลูลีส ที่สามารถย่อยสลายพวกมีเส้นใยทั้งหลายได้ ผิดกับคนที่ย่อยไม่ได้พวกกากใยจึงถูกขับถ่ายออกมา แต่กลับเป็นผลดีกับคนที่พวกกากใยทั้งหลายได้ช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกายคน ได้ สำหรับปลวกสามารถกินพวกที่เป็นเซลลูโลสที่เป็นไม้ได้ทั้งหมด ปลวกบางชนิดกัดกินกระทั่งสารพวกปล๊าสติกที่หุ้มสายไฟ
การตรวจจับปลวกที่อยู่ในกำแพง สามารถใช้เครื่องตรวจจับอินฟาเรด ตรวจว่ามีปลวกอยู่ในผนังหรือไม่ จากความร้อนของตัวปลวก และปลวกสามารถที่จะรวมตัวกันแล้วทำให้เกิดความร้อนที่สามารถที่ฆ่าเชื้อโรค บางอย่างใด้ ในกรณีที่ปลวกตายจะถูกเคลื่อนออกไป และปลวกยังมีภูมิคุ้มกันจากเชื้อโรคต่างๆ ได้เหมือนกับฉีดวัคซีนแล้วตั้งแต่เกิด ความพยายามที่จะฆ่าปลวกอย่างหนึ่งคือการทำลายภูมิคุ้มกันปลวก ทำให้ปลวกเป็นหมัน ทำให้มีปลวกงานน้อยลงที่ทำให้ทำงานหนักมากจนไม่สามารถหาอาหารมาเลี้ยงปลวก ที่เหลือได้

ปลวกงานมีหน้าที่ในการสร้างรังปลวกที่เรียกว่าจอมปลวกบาง ที่สามารถสร้างได้สูงถึง7 เมตร มีสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง โดยขนดินจากข้างล้างใต้พื้นดิน ปลวกสามารถสร้างที่อยู่ที่มีลักษณะลาดเอียงที่น้ำไม่ขัง ออกแบบให้มีช่องระบายอากาศ สามารถเป็นที่หลบภัยจากสัตว์อื่น เช่นกิ้งก่า ตัวต่อ มด เช่นถ้ามดเข้ามาจะถูกรุมกัดจากปลวกจนตายได้ แม้ว่าปลวกงานจะไม่สามารถที่จะมองเห็นก็ตาม

โดยทั่งไปปลวกปกครองกันแบบสมบูรณ์ญาสิทธิราช ราชินีปลวกมีอำนาจมากที่สุด และผลิตตัวอ่อนเพิ่มจำนวนปลวกมาก ขณะที่ปราศจากสตรูมาแผ่วพาน โดยมีปลวกทหาร ปลวกงาน คอยทำงาน ส่วนปลวกราชาทำหน้าที่ผสมพันธ์อย่างเดียว

การแกัปัญหาเศรษฐกิจในระบบเสรีทุนนิยม

ใน โลกเสรีประชาธิปไตยทุนนิยม และการค้าเสรี นั้นต้องการเม็ดเงินจากนักลงทุน มาดำเนินกิจการเพื่อผลิตสินค้า และบริการให้กับลูกค้า ในกระบวนการผลิตนั้นทำให้มีการใช้วัตถุดิบ ที่จะก่อให้เกิดการสร้างรายได้ และมีการจ้างงาน และถ้าผลประกอบการมีผลกำไร ประเทศต่างๆ จึงสนับสนุนให้นักลงทุนมาลงทุนในประเทศให้มากเท่ามากได้ ดังเราจะเห็นว่าในประเทศของเรามีการลงทุนในอุตสาหกรรมบางชนิดเยอะมากจนเป็น ฐานการผลิตส่งไปขายทั่วโลก เช่นรถยนต์เครื่องใช้ไฟฟ้า .........
จากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำจากปัญหาซับไพร์มในอเมริกาได้ก่อให้ เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งมีผลกระทบถึงประเทศไทย ประกอบกับปัญหาทางการเมืองที่วุ่นวายในประเทศทำให้นักลงทุนไม่มาลงทุนเพิ่ม และการส่งออกสินค้าได้น้อยลง จำเป็นต้องลดการผลิต การจ้างงานก็น้อยลงทำให้คนว่างงาน คนไม่จับจ่ายใช้สอยทำมีเงินหมุนเวียนน้อยลง นั่นก็คือรายได้ของประเทศก็ย่อมน้อยลงด้วย .........
ทั้งรัฐบาลโอบาร์มาร์คของไทยและรัฐบาลโอบาร์มา ก็ใช้วิธีการในการแก้ปัญหาที่คล้ายคลึงกัน โดยการอัดฉีดเม็ดเงินลงไปในระบบเศรษฐกิจด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้มีการจับจ่ายใช้สอยและการจ้างงานเพิ่มขึ้น แต่ละรัฐบาลต่างก็กู้เงินภายในประเทศและนอกประเทศ มาใช้เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัว สำหรับประเทศสหรัฐอเมริกานั้น การอัดฉีดเม็ดเงิน การพิมพ์แบ็งเข้ามาหมุนเวียนในระบบ ซึ่งกล่าวกันว่าต้องใช้เงินมหาศาลที่จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัว จากกระแสข่าวว่ามีปริมาณมหาศาลมากกว่ารัฐบาลบุชรวมกันถึงสามปีงบประมาณที เดียว สำหรับประเทศไทยก็ดำเนินนโยบายคล้ายกันที่กู้เงินจากภายในและภายนอกมาพัฒนา ด้านต่างๆ .........

การกระตุ้นให้เกิดการบริโภคบางครั้งก็ส่งผลที่ไม่ดี ทำให้ไม่ประหยัดฟุ่มเฟือย ทำให้เกิดการทำลายสิ่งแวดล้อม และทำให้เกิดมลภาวะสูงมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจตกต่ำลงได้อีก การฟื้นตัวก็จะยากยิ่งขึ้น ยกเว้นเสียว่า การใช้ทรัพยากรอย่างสมดุลย์ และไม่ทำให้สิ่งแวดล้อมเสียหาย ความเสียหายที่เกิดขึ้น อาจจะไม่เกิดขึ้นในประเทศที่พัฒนาแล้ว เพราะมีการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดีและมีกฏหมายที่เข้มแข็ง แต่ในประเทศกำลังพัฒนาการควบคุมให้เป็นไปตามกฏหมายยังทำได้ยากมักจะได้ผล กระทบภายหลัง ที่กล่าวมานั่นอาจจะเป็นผลเสียที่เกิดจากการใช้ระบบเศรษฐกิจเสรีทุนนิยม ซึ่งพอสรุปได้ว่าเป็นการพัฒนาที่กลับมาทำลายตัวเอง อย่างน้อยที่สุดการเกิดภาวะโลกร้อน ทุกประเทศได้รับผลกระทบ ไม่ว่าประเทศพัฒนาแล้วหรือประเทศกำลังพัฒนาก็ไม่มีข้อยกเว้น

การป้องปรามอาชญกรรมระหว่างประเทศ

เมื่อ ไม่นานมานี้เราได้ข่าวเกี่ยวกับการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องหรือดำเนินคดีกับ ผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการฉ้อฉลทุจริต และแม้แต่อาชญกรรมในต่างประเทศ สำหรับประเทศไทยเราเคยได้ยินเรื่องการให้สินบนเกี่ยวกับซื้อเครื่องมือ อุปกรณ์ที่ใช้ในหน่วยงานต่างๆ เท่่าที่ทราบเช่นประเทศญี่ปุ่น และอะเมริกาตัดสินลงโทษคนของตัวเองที่มาให้สินบนในประเทศไทย ขณะที่ประเทศไทยกระบวนการยุติธรรมยังล่าช้าไม่สามารถตัดสินลงโทษใครได้เลย หรือไม่ก็ล่าช้ามาก

และขณะนี้ทราบข่าวว่า ไม่เฉพาะเรื่องการติดสินบน แต่ยังรวมไปถึงการกระทำผิดอื่นๆที่นำไปสู่การก่ออาชญกรรม จากแหล่งข่าวพอจะทราบได้ว่ามีบางประเทศ มีหน่วยปราบปรามพิเศษได้มาร่วมมือกับตำรวจไทยในการ ปราบปรามคนของประเทศตัวเองที่มากกระทำผิด เช่นมาตั้งแก๋๊งหลอกลวง ตั้งซ่องโสเภณี โจรกรรมก็มี ถ้าทำการจับกุมได้เมื่อไรก็จะถูกส่งตัวกลับไปรับโทษที่ประเทศ ของตัวเอง ซึ่งก็มีบ้างแล้วที่จับได้แล้วส่งกลับประเทศ ถ้ามองว่าได้ประโยชน์อะไรที่ทำเช่นนี้ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำร้ายประเทศตัวเองกลับไปทำร้ายเสียหายแก่ประเทศอื่น ก็คงจะตอบได้ว่าไปทำให้ภาพพจน์ของประเทศเสียหาย สร้างความเจ็บแค้นให้คนอื่นๆ อาจมีผลต่อไปในอนาคตที่คนของประเทศตัวเองเมื่อไปประเทศอื่นๆ อาจไม่ปลอดภัยถูกแก้แค้นทดแทนได้ และอีกประการหนึ่งก็คือถ้าไปก่ออาชญกรรมประเทศอื่นได้เหมือนไปฝึกวิทยายุทธ์ มา เมื่อกลับประเทศก็อาจนำประสบการณ์ไปใช้ก่ออาชญกรรมประเทศตัวเอง
ในเรื่องนี้เราเห็นตัวอย่างมาแล้วว่า เมื่อคนในประเทศของตัวเองหรือคนในประเทศของเราไปทำผิดในประเทศอื่น แล้วถูกจับได้ไปถูกลงโทษ ไปถูกตัดสินประหารชีวิตก็มี ทำให้ชื่อเสียงของประเทศเสียหายแน่นอน ความเชื่อถือต่อประเทศก็ลดน้อยลง บางครั้งเป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศถึงขั้นตัดความสัมพันธ์ไปก็มี แน่นอนว่าย่อมกระทบผลประโยชน์ของประเทศแน่นอน การจะป้องปรามปราบปรามอาชญกรรมระหว่างประเทศจึงเป็นเรื่องยากเพราะแม้แต่คน ของประเทศตัวเองก็ยังจัดการไม่ได้แล้ว จึงหวังได้ยากที่ไปจัดการอาชญกรรมข้ามชาติ และการป้องปรามอาชญกรรมทั้งหลายทั้งในประเทศและต่างประเทศจึงต้องการความรู้ ความสามารถในการจัดการซึ่งนั่นย่อมหมายถึงการมีคุณภาพของคนที่จะเข้าไป จัดการกับปัญหาเหล่านี้

การแก้แค้นที่ไม่ธรรมดา

ได้ มีโอกาสดูภาพยนต์เรื่องหนึ่ง ดูแล้วก็ขัดกับความรู้สึกของชาวพุทธที่มีข้อเตือนใจ จาก เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร แต่เมื่อดูภาพยนต์เรื่องนี้แล้ว การแก้แค้นกลับให้สาสมและสะใจ ก็นำมาสู่ความหดหู่ ว่าคนช่างคิดไปได้ไกลถึงเพียงนี้
เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า ครอบครัวหนึ่งพ่อแม่ลูก แม่ละลูกถูกฆ่าตาย แม้จะจับผู้ร้ายได้แล้วตัดสินลงโทษประหารแล้วก็ยังรู้สึกว่าไม่ได้รับความ เป็นธรรม ผู้ร้ายที่ถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยยาพิษนั้น ก็แอบเปลี่ยนยาพิษใหม่ให้ตายอย่างเจ็บปวดทุกข์ทรมาน วางแผนแก้แค้น 10 ปี ใครเกี่ยวข้องก็แก้แค้นหมด แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถบรรลุผลที่จะทำความพิบัติเกินกว่าที่จะรับได้ ตามความอาฆาตพยาบาท แต่ก็ทำเอาผู้เกี่ยวข้อง เสียวสันหลังกันไปหมด แต่ก็เป็นอุทาหอนให้กระบวนการยุติธรรมต้องมาทบทวนกันใหม่ ว่าผู้ทำผิดย่อมได้รับโทษไม่ผิดตัว ผิดคน ตามที่ควรจะเป็น

การแก้บนที่ไม่ธรรมดา

เรื่อง มีอยู่ว่า มีคนซื้อหวยไว้ 20 บาทแล้วเกิดถูกรางวัลขึ้นมา แต่ไม่ยอมไปขึ้นรางวัลที่ถูกนั้น เพื่อนๆ ก็ถามกันว่าทำไมไม่ไปรับเงินรางวัล ก็ได้รับคำตอบว่า ได้ไปบนบานไว้ว่าจะต้องปล่อยปลาสองตัว เพื่อนๆ ก็บอกว่าไม่ยาก ก็แค่ไปซื้อปลาเป็นๆ 2 ตัวไปปล่อยก็สิ้นเรือง คนที่ถูกหวยก็ตอบสนองว่า มั่นไม่ง่ายแบบนั้นนะซี เพราะที่บนไว้นั้นจะปล่อยปลาวาฬ 2 ตัว คิดไปคิดมาก็ไม่คุ้ม ....เออซื่อสัตย์กับตัวเองดี ขอให้เป็นเช่นนั้นตลอดไป

ความเชื่อเรื่องจิตวิญญาณ

ในยุคที่วิทยาศาสตร์ รุงเรื่อง ครั้งหนึ่งแนวคิดของฝรั่งได้เปลี่ยนไปว่า วิทยาศาสตร์สามารถอธิบายทุกอย่างแม้แต่เรื่องจิต บ้างก็ว่าจิตไม่มีจริง เป็นการสร้างภาพขึ้นจากการทำงานของคน ปรากฏการณ์ทางจิตทั้งหลายเป็นเรื่องไม่จริง และไม่เชื่อว่ามนุษย์นั้นประกอบด้วย ร่างกายและจิต เพราะไม่เชื่อว่าจิตมีจริง ......................

อย่างไรก็ตามแนวคิดทางจิต ไม่ว่าทางตะวันตกหรือตะวันออกมีแนวคิดที่คล้ายๆกันคือยังมีความเชื่อเรื่อง วิญญาณ สิ่งที่สะท้อนได้ดีที่สุดคือภาพยนต์ฮอดลีวูด เช่น ภาพยนต์เรื่อง The Ghoust,, The Gift , Heart Condition และมีอีกหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวทางจิต โดยเฉพาะวิญญาณ ภาพยนต์ทั้งสามเรื่องที่กล่าวมานั้น ยังมีพื้นฐานความเชื่อที่ว่าคนที่ตายไปแล้วยังมีดวงวิญญาณ ที่ไม่มีใครเห็นตัวได้ แต่สามารถที่จะส่งผ่านพลังงานมาทำอะไรได้ สำหรับภาพยนต์เรื่อง The Gift นั้นมีความเชื่อในโชคชตา มีลางสังหรณ์ทำให้ทราบเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ เรื่อง Heart Condition วิญญาณสามารถติดต่อกับคนบางคนที่เคยคุ้นเคยเป็นต้น

มะพร้าวพืชป้องกันรักษาสารพัดโรค

จากที่เราเคยเข้าใจว่ามะพร้าวเป็นพืชที่มีไขมันอิ่มตัว และคิดว่ามีคอเรสเทอร์รอลสูง เมื่อรับประทานมะพร้าว คอเรสเทอร์รอลในมะพร้าวจะแพร่ไปในกระแสโลหิต และเป็นสาเหตุทำให้เส้นเลือดอุดตันทำให้หัวใจขาดโรคและทำให้หัวใจวาย จึงทำให้หลายคนลดการรับประทานอาหารที่มีมะพร้าวเป็นองค์ประกอบ จะด้วยเหตุผลอื่นใดที่ทำให้เราเข้าใจเช่นนั้น ในเวลาเดียวกันนั้นเราก็คิดว่าน้ำมันพืชอื่น ไม่ว่าน้ำมันปาล์ม น้ำถั่วเหลือง และอื่นๆ มีคุณสมบัติที่ดีกว่า จึงได้รับการส่งเสริมให้รับประทานมากกว่าน้ำมันมะพร้าว แต่เมื่อมาทบทวนกลับพบว่าประเทศที่ใช้อาหารมะพร้าวเป็นส่วนผสมกลับเป็นโรค เกี่ยวกับหัวใจน้อยกว่าประเทศที่ใช้น้ำมันพืชอื่นมาก ไม่เพียงเท่านั้นยังพบว่าน้ำมันมะพร้าว จากกระบวนอัดเย็นที่เรียกว่าน้ำมันมะพร้าวพรหมจันทร์ หรือน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ มีคุณสมบัติที่เป็นยาอายุวัฒนะ และเป็นตัวป้องกันรักษาโรคได้สารพัดโรคทีเดียว
จากการศึกษาเมื่อเร็วๆนี้พบว่า น้ำมันมะพร้าวที่มีกรดไขมันอิ่มตัวก็ตามแต่มีคอเรสเทอร์รอลน้อยกว่าน้ำมัน พืชอื่นๆ และที่สำคัญก็คือเป็นไขมันที่ร่างกายสามารถเผาผลาญเป็นพลังงานได้ทันที่ จึงเป็นเหตุผลหนึ่งสำหรับคนที่รับประทานอาหารมะพร้าวจะไม่อ้วน และจากการทดลองให้รับประทานน้ำมันมะพร้าวก็พบว่าคอเรสเตอร์รอลไม่ได้เพิ่ม สูงขึ้นตามที่เคยคิดกัน การพบคุณสมบัติสำคัญอันได้แก่เป็นตัวฆ่าเชื้อ แบคทีเรีย รา ยีสต์ และโปรตัวซัว และไว้รัสบางชนิดรวมทั้งพวกที่มีเกาะเปาะไขมันหุ้ม น้ำมันมะพร้าวสามารถละลายได้และกรดไขมันในน้ำมันมะพร้าวสามารถทำลายเชื้อโรค นั้นได้ จะเห็นได้ว่าสามารถทำหน้าที่ได้ดีกว่ายาปฏิชีวันนะโดยทั่วไป
ในน้ำมันมะพราวจากการอัดเย็นยังมีวิตามินอี ที่สามารถป้องกันการเกิดอ๋อกซิแดนซ์ และต้านการเกิดอนุมูลอิสระได้ ทำให้ลดการเสื่อมสภาพส่วนต่างๆ ของร่างกาย ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ได้ดี นั่นก็คือช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ป้องกันและรักษาโรคมะเร็งได้อีกทางหนึ่ง ใช้น้ำมันมะพร้าวนวดช่วยรักษากระดูก ไขข้อให้ทำงานดีขึ้น ทำให้ผิวเนียนอ่อนนุ่ม ลบรอยย่อน ลดการตกกระและฟ้า ผิวหยาบกร้านเนื่องจากแดด นำมากำจัดเชื้อโรคที่ทำให้เกิดรังแคเป็นต้น นอกจากนี้สำหรับเนื้อมะพร้าวยังเป็นอาหารทีมีไฟเบอร์สูง น้ำมะพร้าวมีสารอาหารโดยเฉพาะเอนไซม์บางชนิดที่มีประโยชน์ ทั้งยังสามารถนำไปทำวุ้นมะพร้าวได้อีกด้วย
ในการทำน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ไว้ใช้เองในกระบวนการอัด เย็นก็คือ เมื่อคั้นกะทินำมาใส่ภาชนะ แล้วทิ้งให้เย็น จะเห็นได้ชัดว่าแบ่งออกเป็นสามส่วนแยกกันส่วนบนเป็นครีม ส่วนกลางเป็นส่วนของน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ และส่วนล่างเป็นน้ำและเศษกากที่หลงเหลืออยู่่ ให้เอาส่วนบนออกหรือดูดเอาเฉพาะส่วนกลาง

Thursday, October 29, 2009

การออกกำลังกายช่วยโลก

หลายคนออกกำลังกายเป็นประจำทำให้สุขภาพอนามัยดีไม่ค่อยมีโรคภัยมาแผ่วพาน แต่การออกกำลังกายบางอย่างสามารถจะช่วยโลกให้น่าอยู่ขึ้น ออกกำลังกายด้วยการปลูกต้นไม้ รดน้ำต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับโลก ออกกำลังกายด้วยการทำความสะอาดระบบแสงสว่างเพื่อจะได้ช่วยประหยัดไฟฟ้า  ออกกำลังกายโดยการเดินไปทำงาน ออกกำลังกายโดยการเปลี่ยนอิริยาบทนอกสถานที่ การประชุมโดยวิธีการเดินประชุม และบันทึกเสียงขณะเดินประชุมเป็นต้น

สมาธิความผ่อนคลาย

สังคมของเราที่มีความรุนแรงเกิดขึ้น เพราะคนเราขาดความยั้งคิด ไม่มีสติอยู่กับตัวปล่อยไปตามอารมณ์ความรู้สึกที่ไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้ไม่ใช้ปัญญาในการแก้ปัญหา  การทำสมาธิอย่างง่ายที่สุดวิธีหนึ่ง ก็คือการพยายามให้ร่างกายของเราอยู่ให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้  ก็สามารถทำให้จิตเป็นสมาธิได้ระดับหนึ่ง จะรู้สึกถึงความเบา สบาย และถ้าสามารถควบคุมจิตให้สติไม่ที่หนึ่งที่ใดหรือหลายที่ของร่างกาย โดยใช้จิตมองไปที่ส่วนต่างๆของร่างกาย โดยการนึกก็จะมองเห็นภาพขึ้นมาในใจฝึกบ่อยๆ ก็ทำให้จิตสงบขึ้น และสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น

Friday, October 23, 2009

กินเพื่อสุขภาพ

เคยทราบมาว่าน้ำ ฝรั่งเป็นพืชที่ให้ไวตามินซีสูง ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าวิตามินซีเป็นเหมือนยาอายุวัฒนะ กินมากทุกวันไม่มีโทษมีแต่คุณ  แต่อ่านบทความสรรหามาฝากจากคณะวิทยาศาสตร์ พบว่าที่เป็นโทษก็มีแต่เป็นกรณียกเว้น คือเมื่อเป็นไข้ไม่ควรกินฝรั่งหรือดื่มน้ำฝรั่ง เพราะในฝรั่งมีแร่โพแทสเซียมสูง เวลาเป็นไข้ร่างกายจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น การกินอาหารที่มีโปแตสเซี่ยมสูงจะทำให้เกิดอาการชักได้

อย่างไรก็ตามไวตามินซีมีคุณมหาศาลอย่าให้ขาดอย่างน้อยช่วยสร้างภูมิคุ้ม กันโรคได้  ในฝรั่งมีวิตตามมินซีสูง ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน และยังมี  มีสารเบต้า - แคโรทีน ช่วยลดสารพิษในร่างกาย ทั้งยังป้องกัน ไม่ให้ไขมันจับที่ผนังหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดแข็งตัว   ช่วยลดระดับไขมันในเลือด ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ป่วยเส้นเลือดอุดตัน

นอกจากนี้ ในคอลัมสรรหามาฝากได้บอกไว้ว่า มีสรรพคุึณในการควบคุมความดันโลหิตให้ต่ำลงเพราะมีีสารเคมีตามธรรมชาติ ไม่ทราบว่าเป็นอะไร ถ้าใครทราบช่วยบอกในคอมเมนซ์ด้วย จะได้ช่วยเผยแพร่ความรู้

Wednesday, October 14, 2009

การเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ของระบบ

เหล็กที่โมเลกุลของมันจัดเรียงตัวกันเป็นระเบียบจะมีสภาพเป็นแม่เหล็ก  แสงเลเซอร์ที่มีแสงความถี่เสริมกันก็ปรับให้มีความแหลมคมมีอำนาจในการทะลุ ทะลวงหรือมีพลังงานสูงขึ้น สำหรับระบบหรือโครงสร้างที่ไม่มีระเบียบ พลังงานจะค่อยๆ ลดน้อยถอยลง เป็นไปตามกฏทางเทอร์โมไดนามิกที่คิดให้เอนโทรปีมีค่าเพิ่มสูงขึ้น ที่คิดให้เป็นเงื่อนไขก่อนที่จะมีการสร้างระเบียบใหม่ ที่จะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างแบบเดิมที่ทำงานไม่ได้ผลไปสู่โครงสร้างแบบใหม่ที่ มีรูปแบบที่เหมาะสมกว่ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป เมื่อเทียบเคียงกับสิ่งมีชีวิต ทำไมสิ่งมีชีวิตต้องเจริญเติบโตกลายไปเป็นสภาพใหม่ และมีวิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงไป เป็นไปตามกฏของพลังงานที่มีการเปลี่ยนรูปจากรูปแบบหนึ่งไปเป็นอีกรูปแบบ หนึ่ง  ในมุมมองของการวิวัฒนาการ แทนที่จะมีการเสื่อมสลาย เสื่อมสภาพไป หรือสลายตัวไป แต่กลายเป็นว่ามีการเปลี่ยนสภาพ กลายสภาพหรือวิวัฒนาการได้ตามสิ่งแวดล้อม ทำนองเดียวกับเมื่อเกิดความไร้ระเบียบขึ้น หรือเมื่อมีอะไรไปรบกวนระบบ ที่จะทำให้เกิดความไร้ระเบียบ ซึ่งจะเป็นบทบาทสำคัญยิ่งที่จะเป็นจุดเริ่มที่ก่อให้เกิดระเบียบขึ้น  มีส่วนช่วยให้เกิดการจัดโครงสร้างภายในตัวเอง ที่จะทำให้เกิดระบบ ระเบียบใหม่  ดังนั้นการที่องค์กรบางครั้งเกิดความไม่มั่นคง มีความขัดแย้งสั่นคลอน ก็จะเป็นจุดเริ่มให้มีการจัดโครงสร้างตัวเองใหม่ จัดระเบียบใหม่ หรือเกิดระบบใหม่ นั่นก็คือระบบต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อปลดปล่อยตัวเองออกจากรูปแบบเก่า และค้นหาโครงสร้างใหม่ที่เหมาะสม การยอมรับสิ่งที่มากระตุ้นระบบว่าตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงตามสิ่งแวดล้อม ที่มีข้อมูลใหม่แตกต่างไปจากเดิม  ถ้าระบบสนใจก็จะนำข้อมูลจากสิ่งแวดล้อมเข้าสู่ระบบ เมื่อกระจายเข้าสู่เครือข่ายของระบบแล้วข้อมูลจะแปรรูป ขยายความออกไปมากขึ้น ข้อมูลที่เข้ามาในระบบลักษณะนี้ จะมีผลทำให้ระบบปั่นป่วนอยู่เฉยไม่ได้ การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงก็จะเกิดขึ้น  ณจุดที่มีการก่อกวนภายในอย่างรุนแรงกล่าวได้ว่าอยู่ในสภาพที่เสียความสมดุล ที่อาจส่งผลให้ระบบล่มสลายลง หรือกล่าวได้ว่าระบบที่ไม่สามารถจัดการกับสิ่งที่เข้ามารบกวนแล้วนำไปสู่การ สิ้นสุดของรูปแบบเดิม

Sunday, October 11, 2009

ยุุคสังคมข่าวสาร

เนื่องจากโลกาภิวัฒน์ที่โลกเชื่อมต่อถึง กัน ก็บอกว่าเราเข้าสู่ยุคสังคมข่าวสาร ที่ข่าวสารเป็นสิ่งสำคัญ ใครมีข้อมูลข่าวสารมากย่อมได้เปรียบ ซึ่งเหมือนมีอะไรซ่อนอยู่ก็คือไม่เพียงแต่มีข้อมูลข่าวสารมากเท่านั้นแต่ ต้องรู้จักเลือก นำมาประมวลให้เกิดประโยชน์ด้วย และยังต้องพิจารณาว่าทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารมากน้อยเพียงใด ถ้าส่วนใหญ่ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูล ส่วนใหญ่ยังไม่ได้นำข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เราก็ไม่ได้อยู่ในยุคสารสนเทศหรือสังคมช่าวสาร โลกอาจจะมาถึงยุคนี้จริง แต่สังคมเราหาเป็นเช่นนั้นไม่

แม้แต่สังคมเกษตรเราก็ยังไม่พ้น อย่าว่าแต่หลังสังคมอุตสาหกรรม สังคมข่าวสารก็เป็นแค่พลอยเพียงโผล่เข้าไป ยังไม่พ้นยุคอุตาหกรรม ซึ่งถือว่ายังไม่เต็มตัวด้วยซ้ำ แต่สังคมในโลกตะวันตกเช่นอเมริกาเขาถือว่าเข้าสู่ยุคหลังอุตสาหกรรม (post- industrial) เป็นสังคมข่าวสารเศรษฐกิจฐานความรู้ มีคนทำงานภาคเกษตรเพียง 2 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ประเทศไทยมีภาคเกษตรเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์

ธรรมชาติการเรียนรู้ของนักศึกษาประถมวัย

เป็นวัยที่สติปัญญา กำลังพัฒนากระบวนการคิดของนักเรียน ยังอยู่ในขั้นที่คิดด้วยสิ่งที่เป็นรูปธรรม
1.ใช้วัตถุและสื่อช่วยสอน ดดยการวาด การใช้รูปภาพ ใช้ของจริง
2. เนื้อหาไม่ยาว ปกิบัติเท่ากับครูพูด
3. นักเรียนยังยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง
4. ปฏิบัติให้มาก หลีกเลี่ยงใช้สมุดแบบฝึกหัดที่ให้เลือกโดยใช้ดินสอ
5. เปิดโอกาสให้นักเรียนได้มีประสบการณ์กับโลกทัศน์
การมุ่งเน้นให้นักเรียน คิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น และให้รู้จักค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง ก็คือให้นักเรียนได้มีโอกาสฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้เป็นคนช่างสังเกต รู้จักคิดอย่างมีเหตุผล รู้จักแก้ปัญหาต่างๆ อย่างเป็นระบบ

Saturday, October 10, 2009

แนวโน้มอุดมศึกษา

แนวโน้มและทิศทางของการอุดมศึกษาโลก อาจจะเป็นแนวทางการปรับตัวให้สถาบันอุดมศึกษาของประเทศไทย เพื่อให้เห็นความตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นแล้ว และกำลังเกิดขึ้น และที่จะกำลังเปลี่ยนแปลงไปดังต่อไปนี้
ประการแรก เป็นการจัดการศึกษาเพื่อปวงชน (massification)ให้พลเมืองได้เข้ามาศึกษาหาความรู้และฝึกทักษะเพื่อประกอบอาชีพ เพื่อเข้าสู่สังคมเศรษฐกิจฐานความรู้
ประการที่สอง เป็นการจัดการศึกษาที่หลากหลาย (diversification) หลากหลายรูปแบบและวิธีการ นำเข้าสู่ระบบการศึกษาเชิงบูรณาการและข้ามศาสตร์ (interdisciplinary and trandisciplinary) มากยิ่งขึ้น และหลากหลายด้วยการถ่ายทอดความรู้ และการเรียนรู้ เป็นทั้งระบบเปิดและปิด และลูกผสม
ประการที่3 มีความเป็นเอกชนมากขึ้น (privatetization corporation) มีความคล่องตัวและเป็นอิสระมากขึ้นไม่ยึดโยงกับระบบราชการมากขึ้น ที่เน้นการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
ประการที่ 4 เข้าสู่แนวทางอุตสาหกรรมมากขึ้น (industrialization) มีแนวคิดให้ทุกโปรแกรมวิชาเป็นสินค้าเหมือนอุตสาหกรรม ต้องสร้างคุณค่าเพิ่ม /คุณภาพเพิ่ม ทุกสาขาให้มีค่ามีราคา ทุกสาขาต้องร่วมมือกับภาคธุรกิจ และทุกภาคส่วนทุกวงการ และโดยการสร้างเครือข่าย เป็นตัวอย่างของผู้สร้างที่เข้มแข็ง ไม่ใช่เสพแต่ความรู้และเทคโนโลยีจากที่อื่นแต่ฝ่ายเดียว

Friday, September 25, 2009

Love need no name

I try to figure out how I got this term " love need no name"  It came to my head when I pondered about the past and I recalled that "love need no name" came from the name of a movie. The movie is about teenager love like the innocent lover.  They acted what they feel. 

หญิงชายใครเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขมากกว่ากัน

ในขณะที่ทางตะวันออกจะนิยมยินดีมากกว่าที่ได้ลูกชาย และสถานะการณ์เริ่มเปลี่ยนไปที่ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายก็ชื่นชมยินดีทั้งนั้น จากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ผู้ชายมีทั้งโครโมโซม x และ y เป็นผู้กำหนดเพศ แต่จากการค้นพบทางวิทยาศาสตร์เมื่อเร็วๆ นี้ก็ไม่จำเป็นว่าอสุจิตัวที่แข็งแรงที่สุดเป็นผู้ชนะเข้าผสมกับไข่ได้ แต่เป็นอสุจุตัวที่ไข่เป็นผู้เลือก ที่กล่าวมาก็ยังไม่ใช่ประเด็นว่าการเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขที่แท้จริง เพราะไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขทั้งนั้น แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าถ้าให้มั่นใจร้อยเปอร์เซนต์แล้วการมีลูกสาวนั้นมั่นใจได้มากกว่าว่าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขที่แท้จริงกว่า เพราะลูกที่เกิดจากลูกสาวนั่นมั่นใจได้ 100 เปอร์เซ็นนต์ว่าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขที่แท้จริง ส่วนเด็กที่เกิดจากลูกสะไภ้ซึ่งเป็นลูกของลูกชายนั้นยังมีโอกาสที่ไม่ใช่ลูกที่เกิดจากลูกชายของเราก็เป็นได้ จริงแล้วความคิดเช่นนี้จะมีมากในสังคมตะวันตกที่มีการหย่าร้างสูง และนิยมมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน ซึ่งจะแตกต่างจากการคิดในสังคมตะวันออก

เมื่อคอมพิวเตอร์เป็นต้นแบบของความเรียบง่าย

ตอนที่คิดค้นคอมพิวเตอร์ขึ้นมาครั้งแรกนั้นเพียงต้องการให้คอมพิวเตอร์ช่วยเหลือเรา ในการคำนวณที่ยุ่งยากซับซ้อนได้รวดเร็วขึ้น นั่นเป็นงานประมวลผลคอมพิวเตอร์ยุคแรกสุดต่อมา นอกจากคำนวณตัวเลขแล้วยังใช้ในการจัดการเกี่ยวกับตัวอักษร ตัวอักขระ การประมวลผลของคอมพิวเตอร์ก็รวมการประมวลผลคำ ซึ่งประยุกต์ใช้ในการพิมพ์เอกสารและแสดงผลสื่อความหมายจากการคำนวณ และเมื่อคอมพิวเตอร์แสดงภาพได้ก็สามารถประมวลภาพ คอมพิวเตอร์สร้างเสียงและประมวลผลเสียง นั่นก็คือคอมพิวเตอร์ทำหน้าที่ประมวลผลมัลติมีเดีย จากแนวคิดการแสดงผลในรูปมัลติมีเดียและประมวลผลมัลติมีเดียนี่เอง ทำให้มีการคิดค้นให้คอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องเล่นและบันทึกเสียง(เพลง) และวิีดีโอ ในตอนแรกๆ คอมพิวเตอร์ยังทำได้ไม่ค่อยดี เล่นวิดีโอก็กระท่อนกระแท่น เสียงก็ยังไม่ชัดเจน ในระยะเวลาไม่กี่ปี ในระดับทศวรรษเท่านั้นเอง ที่คอมพิวเตอร์ได้ปฏิวัติวงการบันเทิง และวงการการศึกษา มีส่วนในการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
จากที่เล่นวิดีโอกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ฟังเพลงกับคอมพิวเตอร์ โดยใช้ซอพท์แวร์คอมพิวเตอร์ทำงานร่วมฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ ก็สามารถทำไปสร้างเป็นเครื่องเล่นเพลงเพียงอย่างเดียวก่อนต่อมาก็ทำให้สามารถเล่นวิดีโอและเพลงในเครื่องเดียวกันโดยไม่ต้องผ่านหรือเกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ เท่ากับเป็นการลดบทบาทคอมพิวเตอร์ลง ไม่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องดูวิดีโอหรือภาพยนต์ ไม่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องฟังเพลง ทั้งนี้ก็เพราะว่าคอมพิวเตอร์ที่ดีๆราคาสองสามหมื่นบาท แต่เครื่องเล่นวีดีโอและเพลงราคาแค่พันบาท ด้วยเหตุนี้การนำคอมพิวเตอร์มาเป็นเครื่องดูหนังฟังเพลงจึงไม่ค่อยคุ้มค่า
อุปกรณ์หลายต่อหลายอย่างเริ่มต้นในคอมพิวเตอร์พอคอมพิวเตอร์ทำได้ดี ก็สร้างเป็นเครื่องมือเฉพาะทางขึ้นมา เช่นเครื่องเล่นเพลง mp3,4 เครื่องเล่นวิดีโอซีดี ดีวีดี เครื่องบันทึกเสียง เครื่องดูภาพ แค่เสียบแฮนดีไดร์ฟที่เก็บภาพไว้ก็แสดงบนจอเฉพาะทางนี้ได้ เครื่องอ่านหนังสือมัลติมีเดีย เครื่องเล่นเกมส์ และคิดว่ายังจะมีอุปกรณ์ใหม่ๆ ผลิตออกมาจำหน่ายเรื่อยๆ จากที่เคยให้ทำงานบนคอมพิวเตอร์ และทำมาสู่เครื่องมือเฉพาะทางที่ทำให้สะดวกต่อการใช้มากกว่าคอมพิวเตอร์อย่างน้อยในด้านความเร็ว เพราะคอมพิวเตอร์ต้องเสียเวลาบูทเครื่อง แต่อุปกรณ์เฉพาะทางนั้นใส่โปรแกรมควบคุมเท่าที่จำเป็นเท่านั้น

ความเรียบง่ายกับความเป็นระเบียบ

เรามักมองความเรียบง่ายเหมือนกับไม่มีกฏเกณฑ์ใดๆ แต่ถ้าพิจารณาในรายละเอียดแล้วความเรียบง่ายนั้นเกิดมาจากความมีระเบียบ  ผลิตภัณฑ์หลายอย่างที่มนุษย์คิดสร้างสรรค์ขึ้น ระยะแรกๆ การใช้งานยุ่งยากเราก็บอกว่าขาดความเรียบง่าย  แต่เมือ่มีการปรับปรุงให้การใช้งานง่ายขึ้น หรือจัดระเบียบการใช้งานใหม่ก็ทำให้ง่ายต่อการนำไปใช้ ง่ายต่อการดูแล เราไม่จำเป็นต้องทราบการทำงานของเครื่องใช้ทุกอย่าง แต่ควรจะรู้เรื่องบางอย่างที่จำเป็นที่ต้องจะนำมาใช้ในการแก้ปํญหา

เส้นทางที่เรียบง่ายสำหรับแมลง

คาดคะเนกันว่าการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ทำให้สัตว์ต่างๆ ต้องมีการปรับตัว แม้แต่ยุงก็มีการปรับตัวให้วงจรชีวิตสั้นลง ไม่จำเป็นต้องมีแหล่งเพราะพันธ์ที่เป็นที่น้ำขังมากนัก ระว่างง่ามกลีบตั้นไม้ที่มีน้ำขังยุงก็ไปดำเนินชีวิตอยู่ได้อย่างครบวงจร แล้ว นั่นเพราะเป็นหนทางที่เรียบง่ายของมันนั่นเอง ที่ทำให่มันดำรงเผ่าพันธ์อยู่ได้ต่อไป 
     การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลกทำให้มีการอบยพของสัตว์ มากขึ้นมีมดบางชนิดอบยพขึ้นไปทางเหนือมากขึ้น ทำให้สัตว์กินมดตามไป จากบริเวณที่ไม่เคยเห็นสัตว์กินมดก็ทำให้เห็นสัตว์ชนิดนี้มากขึ้น มีมดบางชนิดได้ไปทำลายระบบนิเวศดั้งเดิม เช่นมดบาง่ชนิดที่อบยพมาจะไปกินปลวก ทำให้ปลวกหายไปได้ในบางบริเวณ

เส้นทางคุณภาพที่เรียบง่าย

ด้วยคำพูดที่ว่าทำวันพรุ่งนี้ให้ดีกว่าวันนี้ ก็บ่งชี้ให้ทราบว่าสามารถที่จะพัฒนาปรับปรุงอะไรให้ดีขึ้นได้เสมอ ด้วยความตั้งใจมุ่งมั่นย่อมทำได้เสมอ อย่างน้อยที่สุดก็ดีขึ้นสำหรับตัวเราเองก่อน เพราะที่บอกว่าดีขึ้นนั้นอาจจะยังด้อยกว่าผู้อื่นอยู่ หรือไม่ได้ดีไปกว่าผู้อื่นในเรื่องนั้นๆ อย่างไรก็ตามแต่ละคนมีความสามารถไม่เหมือนกัน จะมีบางอย่างด้อยกว่า บางอย่างเหนือกว่า หรืออย่างน้อยก็ให้เท่าเทียบ จึงขุดดึงเอาความสามารถของตัวเองขึ้นมา ทำอะไรสักอย่างให้ดีขึ้น มุ่งมั่นจนทัดเทียบ แล้วดีกว่าในที่สุด

Thursday, September 24, 2009

การคิดอย่างมีเหตุผลเป็นเช่นใด

ในปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงก็มีความมีเหตุผลเป็นประเด็นสำคัญ ซึ่งคงจะหมายถึงการคิดและการกระทำอย่างมีเหตุผล และโดยเฉพาะในทางการศึกษาการสอนให้คิดได้อย่างมีเหตุผลน่าจะเป็นเป้าหมาย หลักอย่างหนึ่ง
โดยทั่วไปการคิดจะหมายถึงการตีความ พิจารณา ใคร่ครวญ ไตร่ตรอง เพื่อทำอะไรอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าตามแนวคิดของดิวอี้ก็เพื่อที่จะพิจารณาเพื่อแก้ปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่ง การนั่งเม่อใจลอยโดยไม่มีเป้าหมายใดถือว่าไม่เป็นการคิด ส่วนการคิดในกระบวน การทำงานของคอมพิวเตอร์นั้นคิดแต่เพียงว่าให้เรียกข้อมูลมาได้และประมวลผล ที่ก่อให้เกิดการตัดสินใจ หรือพูดง่ายๆ ว่ามีความจำและการตัดสินใจ ยิ่งมีความจำมากก็ยิ่งตัดสินใจได้ดีและถือว่าการคิดและการกระทำทุกอย่างต้อง มีการตัดสินใจ

สำหรับการคิดอย่างมีเหตุผลน่าจะมีองค์ประกอบดังต่อไปนี้
มีจิตใจใฝ่รู้ มีความสงสัยที่จะเป็นแนวทางการศึกษาต่อไป

มีความรู้สึกที่ส่งผลต่อเป็นแรงขับที่ต้องการในการทำสิ่งต่างๆ ให้มีความชัดเจน ละเอียดถี่ถ้วน

มีความพอใจที่จะเข้าสู่รากฐานที่มาของสิ่งทั้งปวงในระดับที่ลึกซึ้ง

ฟังความคิดเห็นที่ตรงข้ามจากบุคคลอื่นด้วยความจริงใจ เห็นใจ

มีแรงขับที่จะหาหลักฐานมาสนับสนุน

มีความเห็นแย้งกับความคิดที่สับสนวุ่นวายก่อให้เกิดปัญหาสร้างความแตกแยก

ไม่ยอมให้ใครมาทำให้มาตรฐานที่ดีเป็นที่ยอมรับต้องคลอนแคลน

อุทิศตัวเพื่อให้ได้มาซึ่งความจริงตามที่ตนเองสนใจ

การเกิดคุณค่า

เราพูด กันถึงเรื่องคุณค่ากันมากขึ้น เรานำมาเป็นส่วนของชื่องานวิจัย ที่บอกว่าจะช่วยเพิ่มคุณค่า จากเดิมที่เราคิดว่ามีคุณค่าอยู่แล้ว แต่เมื่อพิจาราณาถึงความหมายว่าคุณค่าจะมีอะไรอยู่ในนั้น คุณค่าไม่ได้เป็นเพียงมีอยู่ในเศษกระดาษที่เขียนไว้อย่างสวยหรู หรืออยู่ในคำพูดอันไพเราะ แต่คุณค่าจะคงอยู่มีอยู่จริงได้นั้นก็ต้องอยู่ที่การกระทำ อยู่ที่การปฏิบัติ อยู่ที่การรื้อฟื้น โดยทั่วไปคุณค่าเป็นอะไรก็ตามที่ผูกยึดสิ่งต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน การตัดสินลงความเห็นคุณค่าจะก่อเกิดขึ้นได้ก็ผ่านทางวิทยาศาสตร์หรือความ เป็นจริงและแนวทางอื่นๆที่มีเหตุผล เป็นส่วนของการอ้างอิงเรียกร้องให้ใส่ใจถึงคุณค่า ซึ่งบอกเราให้ทราบว่าการบูรณาการผสมผสานจากหลายๆ สำคัญและมีนัยสำคัญ มีอะไรที่เหมาะสมกันและกัน และทำไมมนุษย์เราจึงได้แบ่งปันความคิดและข้อสาระเอกสารกัน เป็นแนวทางในการทำความเข้าใจธรรมชาติและประสบการณ์ของมนุษย์ คุณค่าทางการศึกษาเกิดขึ้นจากการสร้างความหมายที่ผูกโยงสิ่งต่างๆ เข้าด้วยกัน และดังนั้นคุณค่าจึงเป็นส่วนในการสร้างสรรค์โลกของเรา

ว่าด้วยการใช้เหตุผล

ความวุ่นวายในเหตุการณ์ต่างๆ มักจะโทษกันว่าเป็นเพราะเราไม่ฟังเหตุผลกัน คิดแต่ว่าเหตุผลของตัวเองดีที่สุด ไม่ยอมฟังเหตุผู้อื่นว่าอาจจะดีกว่าของตัวเองก็ได้ บางครั้งเหตุผลของผู้อื่นจะดีเพียงไรก็ไม่ยอมรับฟังเมื่อมีอคติตั้งแต่ต้นคือ ไม่ใช่พวกของตัวเอง อยู่คนละแนวทาง ถ้าเมื่อไรคนในชาติมีแนวคิดแบบนี้ความวุ่นวาย ความสับสนก็เกิดมากขึ้นเพียงนั้น และที่อันตรายมากกว่านั้น นอกจากไม่มีเหตุผลให้ตัวเองแล้วยังยอมตามเชื่อตามผู้อื่นโดยไม่ได้พิจารณาเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้นของให้ได้ผลประโยชน์มากบ้างน้อยบ้างก็พร้อมที่จะเชื่อและปฏิบัติตามโดยไม่ได้พิจารณาเหตุผลของความถูกต้องดีงามเลยก็ว่าได้

มีลัทธิที่ถือเอาเหตุผลเป็นหลัก (rationalism) เชื่อว่าการได้มาซึ่งความรู้ผ่านทางการหาเหตุผล ด้วยแนวทางนี้ใช้วิธีหาเหตุผลนำไปสู่ความรู้ และกำหนดได้ว่าความรู้ที่ถูกต้องได้มาก็ต่อเมื่อใช้การหาเหตุผลที่ถูกต้อง ยังมีความเชื่อว่าความรู้ที่หามาจากการหาเหตุผลมีความถูกต้องเท่ากับหรือเหนือกว่าความรู้ที่ได้จากการสังเกตเสียอีก จากงานวิจัยโดย Johnson-Laird (1983) ได้เสนอแนะนอกจากจะขึ้นอยู่กับหลักสามัญการ (generalized principle)ของตรรกะแบบฉบับอย่างเดียว แล้วมนุษย์ยังใช้การลงความเห็นโดยสร้างรูปแบบในใจแทนปัญหาในบริบทเป็นรากฐานในการใช้รูปแบบนิรนัยที่มองภาพใหญ่ก่อนแล้วนำไปสู่ประเด็นย่อย

เมื่อมองว่าการหาเหตุผล(reasoning)ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันส่วนใหญ่นั้นมีรากฐานมาจากปรัชญาวิทยาศาสตร์ ที่มีความเชื่อว่าความรู้ทุกอย่างยังมีข้อบกพร่องมากบ้างน้อยบ้างที่ยังใช้อยู่ได้ก็เพราะยังอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ และความเชื่ออีกอย่างก็คือความคิดของผู้อื่นอาจจะดีกว่าถูกต้องกว่าถ้าได้พิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบแล้วและแน่ใจว่าความคิดของผู้อื่นดีกว่าก็ยอมรับเอาความคิดใหม่ที่ดีกว่ามาใช้เสียเลย ด้วยหลักอันนี้ทำให้งานวิจัยทุกอย่างต้องมีการนำเสนอในที่ประชุมวิชาการเพื่อไปนำเสนอว่าได้มีความคิดที่ดีกว่าอย่างไร หรือไปฟังผู้อื่นว่ามีความคิดที่ดีกว่าอย่างไร จะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยสรุปการมีแนวคิดทางปรัชญาวิทยาศาสตร์แล้วยึดเป็นแนวทางแล้วความวุ่นวายต่างๆ ก็อาจลดน้อยถอยลงไปความสมานฉันท์ก็ย่อมเกิดขึ้นได้เร็วขึ้น ดังนั้นการศึกษาของเราต้องเร่งสร้างแนวคิดตามแนวปรัชญาวิทยาศาสตร์อย่างเร่งด่วน ได้เท่าใดก็ยิ่งทำให้สังคมเรากลับเข้าสู่ความสงบสุขมากเท่านั้น

การสอนเนื้อหาวิชา

ครูที่มีประสบการจะมีความรู้ในการสอนเนื้อหาต่างๆ นั้นประกอบด้วย

(1) ความรู้เกี่ยวกับบริบทสิ่งแวดล้อม สังคม การเมือง วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมทางกายภาพที่นักเรียนได้รับคำถามเพื่อจะให้เกิดการเรียนรู้

(2)ต้องมีความรู้ด้านวิชาชีพครูด้านการสอน

(3)มีความรู้ในด้านเนื้อหาที่จะสอน (subject area knowledge)

(4)จำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับนักเรียน ความสามารถของนักเรียน ยุทธวิธีการเรียนรู้ อายุและระดับการพัฒนาการ ท่าทีทัศนคติ การกระตุ้นปลุกเร้า และความรู้เดิมที่มีอยู่ก่อนของผู้เรียนเกี่ยวกับมโนทัศน์ที่จะสอน


ความรู้เกี่ยวกับการสอนเนื้อหาเป็นความรู้แบบที่ต้องมีเอกภาพอยู่ในครู ขึ้นอยู่กับลักษณะซึ่งตัวครูมีความสัมพันธ์กับวิชาชีพครูความรู้ด้านการสอน (ครูรู้อะไรเกี่ยวกับการสอน) กับความรู้เนื้อหาวิชา (ครูรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องที่จะสอน) เป็นการบูรณาการหรือสังเคราะห์ความรู้ด้านการสอนและความรู้ในเนื้อหาวิชา ที่ประกอบกันเป็นความรู้ในการสอนเนื้อหาวิชา Shulman (1986) ได้ให้แนวคิดอันเป็นตัวแทนแนวคิดการสอนดังกล่าว ที่มีผลสูงมากที่สุดคือ การเทียบเคียงอุปมา การสาธิต ยกตัวอย่าง การอธิบาย การสร้างสูตรแบบจำลองเนื้อหาที่ทำให้ผู้อื่นเข้าใจได้ ความเข้าใจว่าอะไรทำให้มโนทัศน์เฉพาะหนึ่งง่ายหรือยาก มโนทัศน์และมโนทัศน์ที่มีมาก่อนที่นักเรียนอายุแตกต่างกัน และพื้นฐานที่นำผู้เรียนไปสู่การเรียนรู้

วิธีท่องดิกชันนารี

การเรียนภาษาต่างประเทศที่ไม่ใช่ภาษาของพ่อแม่เรา นั้นบางคนก็เรียนรู้ได้เร็วบางคนก็เรียนรู้ได้ช้า บางคนฟังภาษาต่างประเทศได้เร็ว เข้าใจสื่อความหมายได้เร็วบางคนสื่อความหมายได้ช้ากว่า ผมสังเกตตัวเองว่าอยู่ในกลุ่มประเภทหลัง แต่เมื่ออยากเป็นนักเรียนนอกไปศึกษาต่อต่างประเทศก็จำเป็นต้องสอบภาษาอังกฤษ ให้ผ่านมิฉะนั้นเขาก็ไม่รับให้เป็นนักศึกษา จึงต้องหาวิธีการที่ต้องสอบให้ผ่าน



ด้วยความเชื่อว่ายิ่งรู้ศัพท์ภาษามากเท่าใดก็จะทำให้เข้า ใจภาษาเขาได้มากเท่านั้น นั่นก็คืออ่านภาษาอังกฤษได้ง่ายขึ้นถ้ารู้คำศัพท์มากก็พอจะเดาความหมายได้ ยิ่งประโยคหนึ่งไม่รู้หลายคำยิ่งเดาความหมายทั้งประโยคได้ยาก ด้วยสาเหตุนี้ผู้เขียนจึงได้เลือกเอาวิธีการท่องคำศัพท์ เพราะยิ่งรู้ศัพท์มากก็ยิ่งอ่านภาษาอังกฤษเข้าใจได้ง่ายขึ้น บางครั้งแม้จะฟังไม่ค่อนรู้เรื่องพูดก็ไม่ถูก แต่ก็เชื่ออีกลึกๆ ว่าถ้าได้ฟังออกว่าเป็นคำไหนตามที่ท่องมาแล้วละก็จะจำได้เร็วลืมช้าเพราะ ผ่านตามาแล้ว รู้ความหมายมาแล้ว


วิธีการที่ใช้คือการท่องดิกชั่นนารี ก็เปิดดิกชั่นนารีไปทีละหน้า ดิกชั่นนารีที่ใช้ท่องขณะนั้นชื่อว่า new standard english-thai dictionary by nit tongsopit ฉบับพิมพ์ครั้งแรกโดยแพร่พิทยา ที่ว่าเปิดท่องไปทีละหน้านั้นยังมีวิธีการคือว่าถ้าคำไหนรู้แล้วก็ผ่านไปเลย แต่ถ้าคำไหนที่ดูเฉพาะคำด้านหน้าไม่รู้ความหมายและคิดว่าอยากจำให้ได้ใช้ ปากกาสีแดงขีดเส้นใต้ไว้คราวหน้าเมื่อเปิดดูก็จะดูเฉพาะที่ขีดสีแดงไว้ ไปไหนก็พกดิกชั่นนารีเล่มนี้ ขึ้นรถลงเรือก็เปิดมาดูได้ทำเช่นนี้จนขีดเส้นแดงได้หมดเล่มหลังจากนั้นก็ เปิดดูแต่ที่ขีดเส้นแดงถ้าเปิดดูอีกครั้งดูแต่ตัวภาษาอังกฤษถ้านึกความหมาย ได้ก็ผ่านไปที่คำขีดเส้นแดงอื่นต่อไปนึกความหมายถ้านึกได้ผ่าน เมื่อครบทุกหน้าก็มีการทวน ถ้าจำได้เกือบหมดแล้วไปสอบอีกครั้งหนึ่งคะแนนเพิ่มขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ได้คะแนนสูงพอที่เขารับเราเข้าเรียนได้ ใครจะนำวิธีการนี้ไปใช้ก็ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ครับ

แปรรูปมังคุดกันเถอะ

ในยามที่ผลผลิต มังคุดสูงมากจนล้นตลาดขณะนี้ จึงมีความคิดที่จะแปรรูปมังคุดในรูปแบบต่างๆ การแปรรูปที่เกี่ยวกับมังคุด บางอย่างเราสามารถทดลองทำด้วยตนเองได้ไม่ยาก เช่นในการนำไปทำเป็นมังคุดกวน และนำเนื้อมังคุดสดไปปั่นเช่นเดียวกับการทำผลไม้ปั่นอื่นๆ เพื่อการบริโภค นอกเหนือจาการแปรรูปเป็นสบู่ ไวน์ น้ำมังคุดคั้น


ในการทำมังคุดกวนนั้นให้กวนทั้งเมล็ด ซึ่งเมล็ดที่สุขให้ความอร่อยอีกรูปแบบหนึ่ง ในการกวนนั้นจะไช้มังคุดสุขประมาณ 30 กิโลกรัมจึงจะได้มังคุดกวน 1 กิโลกรม สีสรรของมักคุดกวนเป็นสีเข้มคล้ายกล้วยกวน แต่รสชาดดีกันคนละแบบ แต่ถ้าให้แน่ชัดว่ารสชาดดีแน่นอนก็โดยการนำไปทำเป็นมังคุดปั่น โดยเอาเนื้อมังคุดสดเลือกเฉพาะที่ไม่มีเมล็ดใส่ปั่นพร้อมน้ำแข็งปั่นใส่ น้ำตาลเล็กน้อย จะให้รสชาดและกลิ่นมังคุดที่ไม่เหมือนใคร ถ้าเทียบกับน้ำมะเขือเทศปั่นแล้วรับรองรสชาดดีกว่าแน่นอนลองดูนะครับ
ความจริงแล้วการแปรรูปมังคุดทำได้หลายรูปแบบบางแบบนั้นเราก็คุ้นเคยกันดี แต่อาจจะไม่ได้ทดลองใช้กัน เช่นสบู่มังคุดซึ่งมีจำหน่ายกันทั่วไป น่าจะช่วยกันอุดหนุนมากขึ้น แต่ที่ไม่แพร่หลายอาจจะยังไม่แน่ใจในเรื่องสรรพคุณที่ดีมีอะไรบ้างที่ ชัดเจน ซึ่งเฉพาะสบู่มังคุดตลาดในต่างประเทศเป็นที่นิยม จึงน่าจะส่งเสริมกันมาก ขึ้น การนำไปทำเป็นไวน์มังคุดซึ่งก็พอมีขายอยู่บ้างแต่น่าจะมีให้หลากหลายกว่า นี้ การทำน้ำมังคุดคั้นจำหน่ายเคยมีทำมาจำหน่ายอยู่พักหนึ่งแล้วก็หายไป น่าจะมีการทำต่อไปให้หลากหลายกว่านี้จะได้มีการแปรรูปมังคุดที่ล้นตลาดอยู่ ในขณะนี้

เรื่องของสัตว์เลี้ิยงลูกด้วยนม

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีเกือบทุกขนาด สีและรูปร่าง ช้างเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบนบกที่ใหญ่ที่สุด หนูก็เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เล็กที่สุดชนิดหนึ่ง สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมคล้ายคลึงกันบางอย่างที่สำคัญ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั้งหมดมีขนหรือผม ตัวอย่างเช่น แกะมีขนเป็นลอนเรียกว่า วูลล์ (wool) อีกชนิดเจ้าตัววาลรัส (walrus) มีขนแข็งเรียกว่า หนวด (whiskers) สุนัขจิ้งจอกมีขนนุ่มเรียกว่า เฟอร์ (fur) ไม่ว่าวูลล์ หนวดและเฟอร์ เป็นชนิดของขนหรือผม ถ้าสัตว์ใดๆ ที่มีขนแล้วเรารู้ว่ามันเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวเมียสามารถสร้างน้ำนมที่ส่วน เฉพาะพิเศษของร่าง กาย นมเหล่านี้เป็นอาหารให้ลูกทารก ลูกวัว (piglets) ใช้อาหารจากนมแม่วัวเป็นหลัก ลูกทารกของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมดื่มนมจากตัวแม่ และเรียนรู้ที่จะกินอาหารอื่นๆด้วย ไม่นานลูกวัวก็ไม่ต้องการนมจากแม่อีกต่อไป โดยเริ่มกินหญ้าได้เมื่อลูกวัวอายุมากขึ้น สำหรับขณะที่เพิ่งคลอดนั้นน้ำนมเป็นอาหารอย่างเดียวที่ลูกวัวต้องการ
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมดูแลลูกน้อยขณะที่ยังเล็กช่วยตัวเอง ยังไม่ได้ ตั้งแต่ให้อาหารเลี้ยงดู อาบน้ำทำความสะอาดให้โดยวิธีเลียด้วยลิ้น หมีขั้วโลกกอดลูกน้อยไว้และช่วยให้ร่างกายอบอุ่น สัตว์บางชนิดเช่นพวก anteater ซ่อนลูกของมันไว้บนหลังซึ่งเป็นที่ที่ปลอดภัย สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เกิดใหม่ต้องการความช่วยเหลือจากแม่เพื่อความ ปลอดภัยและให้อาหาร สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบางชนิดเติบโตอย่างช้าๆ และลูกน้อยต้องการแม่เป็นเวลานาน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบางชนิดโตเร็วมาก และไม่นานสามารถดูแลตัวเองได้
ยกตัวอย่างแพะภูเขาสามารถวิ่งได้ง่ายดายบนหินภูเขาที่สูง ชัน ลูกตัวน้อยสามารถท่จะกระโดด คลานบนหินได้เพียง ชั่วโมงหรือสองชั่วโมงหลักจากคลอดลืมตามมาดูโลก ลูกแพะภูเขาจะอยู่กับแม่ประมาณหนึ่งปี มันสามารถเรียนรู้ที่ที่หาหญ้าและพืชอื่นเป็นอาหาร เรียนรู้ที่จะอยู่ห่างจากหมาป่า และใช้เวลาไม่นานที่จะมีชีวิตอยู่ได้บนภูเขา เช่นเดียวกับลูกเสีือลูกสิงโต เมื่อเพิ่งคลอดตัวเล็กและอ่อนแอ ลูกๆอยู่กับแม่ของมันตามลำพัง ประมาณสามสัปดาห์ในการดื่มนมและนอนหลับ ลูกๆเสือจะหลบซ่อนตัวขณะที่แม่ออกไปล่าเยื่อหาอาหาร เมื่ออายุครบแปดสัปดาห์ จะนำลูกตัวน้อยไปพักอยู่กับครอบครัวของเสือที่มีอยู่ด้วยเป็นครอบครัวเสือ ที่เรียกว่า ไพร์ด (pride) ในแต่ละครอบครัวดังกล่าวนั้นมีเสือตัวผู้โตเต็มวัยสองสามตัว ซึ่งมักจะมีลูกเสืออยู่ด้วยบ้าง ลูกเสือในช่วงนี้จะเติบโตขึ้นและแข็งแรงขึ้น สามารถที่จะวิ่ง กระโดด วิ่งไล่เล่นกันและกัน ฝีกหัดวิธีการไล่ล่าเยื่อโดยวิธีการเล่น โดยการเฝ้ามองเสือที่แก่พรรษากว่าล่าเยื่อ จนอายุประมาณสองปี เป็นเสือหนุ่มได้เรียนรู้การล่าเยื่อไปในตัว
เราอันเป็นคนทั้งหลายก็เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เด็กทางรกมีผมที่อ่อนนุ่ม เมื่อเด็กทารกหิวก็ดืิ่มนมจากมารดา เด็กทารกต้องการครอบครัวในการดูแล ขณะที่เด็กๆเติบโตขึ้นและเรียนรู้ และอยู่อาศัยภายในครอบครัวเป็นเวลาหลายปี

อันตรายจาก GMO


     เราคงเคยได้ยินว่าหลังจากยุคเทคโนโลยีสารสนเทศแล้วต่อไป จะเป็นยุคเทคโนโลยีชีวภาพ (BioTechnology) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตกแต่งพันธุกรรม (Genetically Modified Organism: GMO) ที่อ้างว่าสามารถที่จะตกแต่งพันธุกรรมให้ได้ผลผลิตสูง ไม่มีเชื่อโรคมารบกวนให้ทนต่อสภาพอากาศได้เป็นต้น ซึ่งการตกแต่งพันธุกรรม ดังกล่าว ก็ยังไม่ทันได้ศึกษาถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น  ที่ว่าจะช่วยลดยาฆ่าแมลง และเพิ่มผลผลิตก็ไม่เป็นความจริง จากงานวิจัยก็พบว่าไม่ได้เพิ่มผลผลิตขึ้นตามข้อกล่าวอ้าง แม้ว่าจะมีแมลงบางชนิดไม่สามารถจะใช้พืชตัดแต่พันธุกรรมเป็นอาหาร แต่ทำให้ไปเป็นอันตรายกับพืชชนิดอื่น ที่ทำให้ต้องใช้ยาฆ่าแมลงมากขึ้น  และมีแมลงและหนอนบางชนิดพัฒนาขึ้นมาให้อยู่ได้กับพืช GMO พัฒนายาฆ่าแมลงชนิดใหม่  และพืชGMO ที่แมลงไม่แผ่วพาล ก็อาจตายหรือปรับตัวทำให้ระบบนิเวศเปลี่ยนแปลง อยู่ในภาวะได้อย่างเสียอย่าง
      เนื่องจากการตกแต่งพันธุกรรมมักจะมาจากการผสมข้ามพันธ์ อย่างรวดเร็วไม่ต้องรอวิวํฒนาการทำให้พืช GMO มักจะเป็นหมัน นำเมล็ดไปปลูกไม่ได้ต้องเป็นเมล็ดจากบริษัทผู้ผลิตเท่านั้นทำให้เกิดการผูก ขาดเกษตรกรอาจต้องซื้อเมล็ดพันธ์ในราคาแพงขึ้นภายหลัง นอกจากนี้เมื่อพืชพันธ์พื้นเมืองมีการปลูกน้อยก็อาจทำให้สูญพันธ์ได้ ทำให้ลดความหลากหลายทางชีวภาพไปอีก อาจมีส่วนทำลายห่วงโซ่อาหารของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย
      การศึกษาวิจัยที่ยังไม่สมบูรณ์อาจเป็นไปได้ว่าพืช GMO ให้สารอาหาร สูตรโครงสร้างของสารอาหารที่เปลี่ยนไปจากเดิม เช่นถั่วเหลืองก็มีองค์ประกอบต่างไปจากถั่วเหลืองพันธ์ที่เคยปลูก จะมีส่วนต่อการนำไปใช้ของร่างกายอย่างไรยังไม่แน่ชัด  โดยสรุปพืชGMO อาจไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ ทำให้เกิดโรคใหม่ๆ ที่ยากแก่การควบคุม และทำให้เกิดการเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้นก็เป็นได้

ปรากฏการณ์แอลนิโญอันตรายอย่างไร

ตามแนวชายฝั่ง อเมริกาใต้ใกล้สิ้นปีปฏิทิน กระแสน้ำอุ่นที่ไม่ค่อนอุดมสมบูรณ์ มีสารอาหารน้อยในเขต tropical เคลื่อนลงทางใต้ แทนที่น้ำที่เย็นกว่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่ผิวหน้า เนื่องจากปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นประมาณวันคริสต์มาส ผู้คนในท้องถิ่นจึงเรียกว่า แอลนิโญ (ภาษาสเปนแปลว่าเด็ก) อ้างถึงเด็กชาวคริสต์ ในเกือบทุกปีมีความอบอุ่นเกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์  อย่างไรก็ตามเมื่อปรากกฏการณ์นี้คงอยู่ต่อเป็นเวลาหลายเดือน ทำให้เกิดผลเสียหายทางด้านเศรษฐกิจจำนวนมาก การขยายช่วงเวลาที่อบอุ่นออกไปซึ่งนักวิทยาศาสตร์เรียกในตอนนี้ว่าแอลนิโญ  ในระหว่างที่เกิดปรากฏการแอลนิโญเกิดความเสียหาย เพราะปลาจำนวนมาก และพืชทะเลหลายอย่างไม่อาจอาศัยอยู่ได้อาจตายไป  การย่อยสลายชีวิตที่ตายไปในระหว่างนั้นทำให้จำนวนออกซิเจนลดน้อยลง  ทำให้เกิดผลผลิตจากแบคทีเรียปริมาณสูงมากคือกลิ่นของไฮโดรเจนซัลไฟล์ ทำให้ลดจำนวนปลาลงเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพวก anchovy ทำให้ผลผลิตอาหารจากปลาของโลกลดลงจำนวนมาก ส่งผลทำให้สัตว์ปีกทั้งหลายราคา สูงขึ้นด้วยเพราะต้องใช้ปลาเป็นอาหารในการเลี้ยงสัตว์ปีกเหล่านั้น
จากการศึกษาเปิดเผยให้ทราบถึงแอนนิโญไม่ได้เกิดขึ้นอย่างโดดเดี่ยว ที่เป็นส่วนของรูปแบบการเปลี่ยนแปลงการไหลเวียนกระแสน้ำในมหาสมุทร และบรรยากาศ ปรากฏการณ์แอนนิโญในปี 1986-1987 เป็นช่วงที่มีภูมิอากาศที่แล้วร้ายชั่วหนึ่งในศตวรรษที่ 20 ทั้งในแง่ภูมิศาสตร์และองศาของความอุ่นที่เพิ่มขึ้น แอลนิโญในปี 1986-1987 จะเป็นส่วนที่มีการบันทึกถึงภาวะโลกร้อนในปี 1987 ที่โลกร้อนที่สุดในรอบ 100ปี ปรากฏการณ์นี้จะน่าจะเกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อน

อันตรายที่ไม่เจ็บ

การ ที่เรารู้สึกเจ็บเป็นกลไกในการป้องกันตัวอย่างหนึ่งเมื่อรู้สึกเจ็บก็จะทำ ให้ถอดหนีห่างออกไปจากสิ่งที่จะทำให้เป็นอันตราย เช่นรู้ว่าแตะของร้อนหรือโดนไฟจะเจ็บปวดแสบ ทำให้เราไม่ไปแตะสิ่งที่ทำให้เกิดอันตรายได้ บางคนบอกว่าไม่เจ็บเสียเลยดีกว่า แต่ในบางกรณีการไม่เจ็บก็เป็นอันตรายถึงตายได้ คนไม่รู้สึกเจ็บเมื่อโดนไฟเผาไม่รู้สึกร้อนหรือเจ็บ ขาหักก็ไม่เจ็บ เป็นไส้ติงอักเสบก็ไม่เจ็บปวดเลย ซึ่งแต่ละอาการก็ทำให้ถึงตายได้ การไม่เกิดความเจ็บเป็นสิ่งผิดปกติอาจเนื่องมาจากเป็นโรคชนิดหนึ่ง  ที่ทำลายประสาทรับความรู้สึก
การไม่เจ็บปวดบางอย่างเช่นในกรณีที่ปลายนิ้วเท้าไม่มี ความรู้สึก ดังเช่นในคนที่เป็นโรคเบาหวานก็ทำให้แผลเปื่อยอาจจะต้องตัดนิ้ว ตัดขาในที่สุด  หรือในบางคนที่เป็นมะเร็งเต้านมในก้อนมะเร็งจะไม่รู้สึกเจ็บปวดหรือชา ไม่ได้รับการรักษาทันท่วงทีก็ทำให้เชื้อมะเร็งลุกลามยากต่อการรักษาภายหลัง ได้ และที่แน่ๆ การที่รู้สึกเจ็บทำให้เรารู้ว่าเรายังมีชีวิตอยู่
sick1.jpg

ประโยชน์ของมะรุม

มะรุมมีประโยชน์ทั้งในแง่ที่เป็นอาหารที่มีประโยชน์และมีตัวยาสำคัญที่ช่วยบำบัดและบรรเทาโรคหลายอย่าง รวมทั้งใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ
ประการแรกที่กล่าวว่าการปลูกมะรุมเหมือนกับย้ายโรงพยาบาล มาไว้ในบ้าน ทั้งนี้ก็เพราะสามารถ บำบัด บรรเทาในการรักษาโรคต่างๆ ได้หลากหลายมากที่สุด เท่าที่รวบรวมมาดังนี้
-หายจากโรคเบาหวานเมื่อรับประทานใบมะรุมเป็นประจำ
-ช่วยลดความดันโลหิตสูง เสริมกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย
-สร้างภูมิคุ้มกันหรือภูมิต้านทานให้ร่างกายให้กับผู้ป่วยโรคหวัดและโรคเอดส์มากขึ้น
-ป้องกันและบรรเทาโรคมะเร็ง รักษาก้อนเนื้อในเต้านม
-ช่วยลดการแพ้รังสี เมื่อดื่มน้ำมะรุม
-บรรเทาอาการปวดบวมของโรคเก๊าท์ โรคไขข้อและโรคกระดูกอักเสบ โรคมะเร็งในกระดูก
-ช่วยเชื่อมต่อกระดูกที่หักได้ผลเร็วขึ้น
-ช่วยรักษาโรคตาได้เกือบทุกชนิด รวมทั้งโรค กลูโคม่า
-รักษาโรคลำไส้อักเสบ โรคพยาธิลำไส้
-ช่วยให้ปอดแข็งแรง บำบัดโรคปอดอักเสบ
-รักษาโรคทางเดินหายใจอักเสบ โพรงจมูกอักเสบ
-บำบัดโรคหอบหืดและโรคภูมิแพ้ ไม้เป็นไข้หวัด ลดอาการปวดศีรษะ
-ป้องกันโรคท้องเดินได้เมื่อเคี้ยวเม็ดมะรุม
-แก้อาการไอเรื้อรังได้
-รับประทานเม็ดมะรุมก่อนนอนช่วยขับถ่ายในตอนเช้า และยังช่วยขับถ่ายพยาธิ
-รักษาอาการอักเสบอันเนื่องจากแก้หูทะลุฉีกขาด
-รักษาโรคน้ำกัดเท้า โรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา โรคพยาธิไชเท้า ทาด้วยน้ำมันมะรุมก่อนไปย่ำแช่น้ำ
-รักษาโรคคอหอยพอกชนิดมีพิษ
-รักษาโรคเชื้อราบนหนังศีรษะ ลดอาการผมร่วง ลดอาการคันศีรษะ
-บำบัดรักษาแผลเปื่อยเรื้อรังในคนชรา รวมทั้งรักษาแผลมีดบาดเล็กๆ น้อยๆ
-ช่วยให้ผิวหนังแห้งกลับชุ่มชื้น อ่อนนุ่มขึ้น ชลอความเหี่ยวย่นของผิว
-ลดอาการพื้นคันตามผิวหนัง และการแพ้ผ้าอ้อมเด็ก
-รักษาแผลในปาก แผลปากนกกระจอก
-น้ำมันนวดบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามส่วนของร่างกาย นวดกระชับกล้ามเนื้อ
-ลดการเกิดสิวบนใบหน้า
-ถอนพิษแมลง สัตว์กัดต่อย ช่วยให้หายปวดจากพิษ
-เปลือกสับเป็นชิ้นเล็กๆ นำไปทำลูกประคบลดอาการบวมช้ำ ปวดเมื่อย

สำหรับคุณค่าทางโภชนาการในปริมาณเท่ากัน มีแคลเซี่ยมและโปรตีนสูงกว่านม มีโปแตสเซี่ยมสูงกว่าในกล้วย มีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าแครอท มีวิตามินซีสูงกว่าส้ม
การนำไปใช้ด้านอื่นเช่นเมล็ดมะรุมบดละเอียดนำไปกรองน้ำ ฆ่าเชื้อโรค ทำให้น้ำตกตะกอน ฆ่าเชื้อโรคได้เกือบร้อยเปอร์เซ็น ฝักมะรุมแก่ทุบไปแก่วงในน้ำ ทำให้น้ำสะอาด หรือเอาผ้าห่อผงมะรุมแก่งในน้ำฆ่าเชื้อโรค หรือทำให้นำหายกร่อย  นอกจากนี้น้ำมันมะรุมใช้เป็นน้ำมันหล่อลื่นได้ดี ทำให้สิ่งของไม่เป็นสนิม เช่นเป็นน้ำมันล่อลื่นเฟืองนาฬิกาได้ดีที่สุด
อ้างอิง  มะรุมต้นไม้เพื่อชีวิต รวบรวมโดย วิไลวรรณ อนุสารสุน

Wednesday, September 23, 2009

ลักษณะของวัฒนธรรมตะวันตกที่มีผลต่อสังคมไทย

ด้วยลักษณะของอิทธิพลของวัฒนธรรมตะวันตกที่แฝงมาในรูป ต่างๆ ตามสื่อมวลชนภาพยนต์ ซึ่งเราบริโภคอยู่จนคิดว่าเป็นวัฒนธรรมสากล จนหลงไปว่าเป็นอารยธรรม จนทำให้เราหลงลืมภูมิปัญญาดั้งเดิมที่ดีงามไป และมีอิทธิพลต่อวิธีคิดวิธีทำงานของพวกเราเป็นอย่างมาก จนยากที่จะถอนออกไปได้  ซึ่งพอสรุปเป็นเรื่องหลักๆ ได้ 3 ประการคือ ความเป็นปัจเจกบุคคล  การแข่งขัน และการมองโลกแบบเครื่องจักร


ความเป็นปัจเจกนำไปสู่การเห็นแก่ตัวขาดความสัมพันธ์กับ สิ่งรอบตัว ทำให้ไม่เข้าใจในความสัมพันธ์ที่ควรจะเป็นไม่สามารถที่จะรวมพลังกันที่จะทำ สิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้เกิดขึ้น การแข่งขันที่ไม่ใช่เฉพาะแข่งดี แต่เป็นการแข่งกันทำลายล้างกันในขณะเดียวกัน ดังจะเห็นได้จากความพยายามที่จะพิชิตโลกที่จะเป็นหนึ่งอันก่อให้เกิดการ ทำลายสิ่งแวดล้อม เบียดเบียนเพื่อมนุษย์ด้วยกันอย่างไม่รู้ตัว และการมองโลกแบบเครื่องจักร ที่คิดให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเครื่องจักรที่ควบคุ้มด้วยกฏเกณฑ์ทางฟิสิกส์ แบบนิวตัน ซึ่งก่อให้เกิดความซับสนและความขัดแย้ง ไม่สามารถที่จะเห็นถึงผลกระทบในองค์รวม และความสัมพันธ์เชื่อมโยง ซึ่งสิงที่เห็นได้ชัดอีกอย่างหนึ่งก็คือเราไม่สามารถที่จะอยู่ในโลกนี้ได้ อย่างมีความสุขและสมานฉันท์


ด้วยแนวคิดตามความเชื่อดังกล่าวยังคงมีอิทธิพลต่อสังคม และองค์กรอยู่ทุกหัวระแหง ทำให้ยิ่งมีการพัฒนาก็ยิ่งก่อให้เกิดปัญหาในสังคมไทยอย่างต่อเนื่องมากมาย และก็ยังคงดำรงสภาพนี้ต่อไปถ้าหากไม่ทำอะไรที่จะแก้ปํญหา ผู้นำจะต้องออกมาช่วยเหลือในส่วนนี้  โดยสร้างการมีส่วนร่วม และสร้างความสัมพันธ์ให้เกิดขึ้น  ผู้นำอย่างได้เป็นปํญหาเสียเอง ซึ่งทุกวันนี้ผู้นำยุคปัจจุบันยังคงวนเวียนกับการที่ไม่รู้ว่าจะทำงานร่วม กันอย่างไร การจัดหาสรรหา สิ่งที่จำเป็นและต้องการอย่างรวดเร็วได้อย่างไร และจะทำงานให้บรรลุผลตรงตามจุดประสงค์เป้าหมายได้อย่างไร เราต้องเปลี่ยนแนวคิดจากสิ่งที่ทำให้เราอยู่แยกกัน และแบ่งแยกทุกสิ่งทุกอย่าง ให้มีพฤติกรรมองค์กรใหม่อย่างเร่งด่วน ในการเรียนรู้ การทำงานร่วมกันท่ามกลางความแตกต่าง เปลี่ยนการมองแบบเครื่องจักรมาเป็นแนวคิดที่ยืดหยุ่น

สมุนไพรลดความดันสูง

วันนี้ได้ข่าวว่า ญาติผู้หนึ่งล้มป่วยด้วยเส้นเลือดในสมองแตกทำให้เป็นเจ้าชายนิทรา ต้องผ่าตัดเอาเลือดที่ตกค้างในสมองออก แต่ก็ไม่ได้ช่วยมากนักกลายเป็นคนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ประสาทส่วนที่ควบคุมคงเสียไป  จึงเป็นข้อสังวรณ์สำหรับคนที่มีความดันสูง ที่จะต้องลดให้อยู่ในระดับปกติ โดยวิธีที่ทุกคนสามารถทำได้โดยอาศัยสมุนไพรที่เป็นอาหาร  ซึ่งจะช่วยป้องกันสำหรับคนที่มีความโน้มเอียงที่มีความดันสูง  อาหารสมุนไพรที่ช่วยในการลดความดันสูงได้มีดังนี้
  • กระเทียม
  • คื่นฉ่าย เอาต้นสดมาตำค้นเอาแต่น้ำดื่ม หรือต้นสดตำให้ละเอียดต้มกับน้ำ กรองเอากากออก  หรือกินเป็นผักสดผสมอาหาร
  • กาฝากมะม่วง นำมาตากแห้งต้มน้ำดื่มต่างน้ำชา
  • กระเจี๋ยบแดง  นอกจากช่วยลดความดันแล้วนี้ยังช่วยลดคลเลสเตอรอลได้ ขับปัสสาวะแก้นิ่ว ลดไข้
  • บัวบก นอกจากช่วยลดความดันโลหิตสูงยังเป็นยาบำรุงหัวใจ แก้อ่อนเพลีย ช่วบขับปัสสาวะ 
  • ขิง ขี้เหล็ก ผักชี ผักชีฝรั่ง มะขาม แมงลักต่างก็ช่วยลดความดันโลหิตสูงได้

ย้อนรอยอดีตเมืองนคร

วันนี้ได้สนทนา กับผู้ที่ศึกษาเกี่ยวกับประวัติเมืองนครอย่างแตกฉานคนหนึ่ง ซึ่งท่านแสดงความคิดเห็นหลายอย่างเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เมืองนครศรี ธรรมราช ที่สอดคล้องกับสิ่งที่ผู้เขียนได้เสนอไว้ในย้อนรอยอดีตจตุคามรามเทพ ว่าเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ศาสนาพุทธไปยังอินโดนีเซียดังหลักฐาน บรมพุทโธ (บอริบุโดในภาษาอินโดนีเซีย) และเกี่ยวพันธ์กับกษัตริย์ผู้สร้างนครวัดนครธม (นครธมเป็นศิลปะแบบบายน) ได้รับอิทธิพลการสร้างปราสาทมาจากบรมพุทโธ เพราะเจ้าผู้ครองนครเขมรและอินโดนีเซียเป็นญาติกัน

จากหลักศิลาจารึกที่วัดเสมาเมืองที่บ่งบอกถึงการตั้งอาณาจักรศรีวิชัย นั้น  ยังมีปัญหาอยู่ว่าเป็นหลักศิลาที่อยู่ที่นครมาดั้งเดิมหรือไม่  อาจเคลื่อนย้ายมาจากที่อื่นทั้งนี้เพราะหลักฐานแวดล้อมที่พบนั้นมีน้อย ต่างกับหลักศิลาจารึกที่เรียกว่ามเหยงค์ไม่ใช่ศิลาจารึกที่อยู่ที่วัด มเหยงค์ตำบลท่าวัง แต่อยู่ที่ท่าศาลา ที่แหล่งโบราณคดีโมคลาน ที่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในด้านศิลปกรรม สอดคล้องกันที่พบที่วัดนางพระยา วัดพระเวียง วัดท้าวโคต วัดสวนหลวง และอื่นๆ ในแง่ศิลปะ ที่น่าจะเป็นชุึมชนชาวขอมโบราณ  และที่วัดนางพระยาถ้าสืบสาวราวเรื่องไปแล้วเกี่ยวข้องกับกษัตริย์เขมรสมัย พระเจ้าชัยวรมัน และมีเรื่องราวเกี่ยวกับจตุคามรามเทพมาก่อนแล้ว

ส่วนในเรื่องที่เกี่ยวกับศรีลังกานั้นมีหลักฐานจากพระสิหิงค์ พระบรมธาตุเจดีทรงลังกาแต่หลักฐานทางประวัติศาสตร์ในแง่ของศิลปะแถบไม่มี จึงไม่น่าจะเป็นไปได้ที่หลักฐานต่างๆ ที่พบมาจากศรีลังกา แต่ถ้าดูหลักฐานทางด้านศิลปะ ที่พบได้หลายจุดในเมืองนครศรีธรรมราชนั้น มีส่วนของศิลปะแบบบายนของเขมรเป็นหลักฐานที่ชัดเจนกว่า  อย่างไรก็ตามการสร้างโบสถ์วิหารนั้นสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาไม่ได้สร้างตามแบบ ขอมหรือเขมร แม้ว่าในสมัยพระเจ้าปราสาททองจะได้เคยไปตีอาณาจักรเขมรสำเร็จและได้นำ อารยธรรมเขมรมาสร้างปราสาทไว้บ้างก็ตาม
จะเห็นว่ายิ่งติดตามประวัติศาสตร์เมืองนครจะพบส่วนที่เป็นวิทยาศาสตร์คือ มีหลักฐานแวดล้อมที่น่าเชื่อถือนั้นมีไม่มากจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เราไม่ได้ เรียนรู้อาณาจักรศรีวิชัยว่ามาเกี่ยวพันธ์กับเมืองนครศรีธรรมราชตรงไหน อาณาจักรขอมแผ่อิทธิพลลงมา หรือว่าเป็นพวกขอมที่ถูกกวาดต้อนมาก็ยังไม่มีใครพิสูจน์ได้ แต่การย้อนรอยศึกษาที่ไปที่มาแล้วเราจะได้อะไรดีๆ ทางประวัติศาสตร์ที่ยังคงทิ้งไว้ให้พวกเราอย่างคาดไม่ถึงเช่นเดียวกับองค์ จตุคามรามเทพ

แข่งขันนกกรงหัวจุกกันอย่างไร

ได้มี โอกาสเข้าร่วมสังเกตการจัดแข่งขันนกกรงหัวจุกซึ่งจัดโดยคณะวิทยาการจัดการ นับเป็นครั้งแรกที่จัดโดยคณะฯ โปรแกรมการจัดการทั่วไป เมื่อเข้าบริเวณแข่งขันจะได้ยินเสียงนก ดังไปทั่วงานได้บรรยากาศสำหรับคนชอบฟังเสียงนก การจัดแข่งขันครั้งนี้ผู้ส่งนกเข้าแข่งขันก็คงมีค่าสมัคร ส่วนรางวัลก็มีถ้วยรางวัลเกียรติยศ และของขวัญรางวัลมากมาย ซึ่งรวมทั้งของขวัญหมายเลขหางบัตร ที่น่าสนใจก็คือว่าพระเอกของงานคือนกมีการฝึกซ้อมเตรียมตัวกันมาดีก่อนแข่ง ขัน กติกาการแข่งขันที่น่าสนใจ

นก กรงหัวจุกเป็นนกขนาดเล็กกว่านกเขา หัวเป็นขนพู่ขึ้นเป็นสองแนว ที่แก้มหรือใกล้กับหูจะมีสีส้มหรือแดงเป็นแถบเล็กๆ เป็นลักษณะประจำตัวของนกทีเดียว แต่นกที่เข้าแข่งขันล้วนเป็นนกตัวผู้ทั้งสิ้น เป็นนักร้องเสียงดีแข่งกัน เพราะอะไรคงไม่ต้องอธิบาย
การ แข่งขันจะใช้กรรมการในการฟังเสียง โดยการแข่งขันจะแบ่งเป็น 4 ยก 8 ดอก คำว่าดอกนั้นคือเสียงนกที่เข้าหูกรรมการว่าเป็นเสียงที่ต้องการคือเสียงร้อง ลากยาวหนึ่งครั้งเรียกว่าดอกหนึ่ง ในแต่ละยกจะใช้ภาชนะคล้ายกะลาเจาะรูตรงกลางถ่วงน้ำหนักนำไปลอยในโถแก้วใหญ่ ใส่น้ำไว้ เมื่อน้ำเข้ามาเต็มภาชนะจะจมลงก้นโถแก้วนับเวลาได้ประมาณ 25 วินาทีช่วงที่กรรมการเข้าไปดูนั้น เจ้าของนกต้องเชียร์ให้นกร้องหรือขัน จะได้ดอกในแต่ละยกอาจได้หลายดอก แข่งกัน 4 ยกจะเข้ารอบได้ต้องได้ 8 ดอก หลังจากนั้นนกที่เข้ารอบต้องมาแข่งกันในรอบต่อไปเพื่อหาตัวที่ขันได้ชนะเลิศ และรองต่อไป
การแข่งขันจะสนุกเร้าใจก็ตรงที่ กรรมการไปฟังเสียงนกนี่แหละ ที่กรงนกจะมีผ้าคลุมกันแดด เพราะถ้านกโดนแดนจัดร้อยอาจเหนื่อยง่ายขันไม่ออก หรือไม่ตอนกรรมการเข้าไปฟังเสียงอาจตื่นเต้นไม่ยอมขันก็แพ้ได้เพราะไม่ได้ ดอก  อย่างไรก็ตามเจ้าของนกที่ฝึกมาดี เตรียมตัวกันมาดีสามารถจูงใจให้นกขันเมื่อไรก็ได้ พูดง่ายๆ ว่ารู้ใจกันก็ว่าได้ 
จะว่าไปแล้วการใช้คนเป็นกรรมการใน การฟังเสียงก็อาจใส่ความรู้สึกเข้าไปบ้างในแต่ละคนฟังไม่เหมือนกันก็อาจ ตัดสินผิดพลาดได้  ทำให้นึกไปในเรื่องการชิมไวน์ที่ยังต้องใช้คนชิม แต่ตอนหลังหาคนชิมไวน์ที่ได้มาตรฐานที่ชำนาญจริงๆ ไม่ค่อยได้  จึงมีคนคิดเครื่องชิมไวน์โดยไม่ต้องใช้คนได้แล้ว แต่ให้ได้รสชาดเหมือนเดิม  ในกรณีของเสียงนกก็เช่นเดียวกันผูเขียนพอมีความรู้เรื่องเสียงทางฟิสิกส์ อยู่บ้างถ้าใครต้องการดูรูปคลื่นเสียงของนก ว่าเสียงสูงต่ำระดับเสียงเป็นอย่างไรให้อัดเสียงนกมา หรือให้นกมาขันที่ไมโครโฟนเท่านั้น แล้วต่อเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ดูรูปคลื่นเสียงได้ทันที ใครอยากได้รูปคลื่นเสียงนกว่าเป็นอย่างไรติดต่อได้ที่คณะวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี โดยพิมพ์เป็นภาพกราฟิกให้ดูได้เลยครับ

ความหมายการศึกษา

เราจะทราบความหมายของการศึกษาได้จากประโยคง่ายๆ ที่ว่า "การศึกษาคืออะไรที่เหลืออยู่หลังจากที่เราลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้เรียน รู้มา" เพื่อชี้ให้เห็นว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องใดบ้าง พิจารณาสิ่งที่เกี่ยวข้องโยงใยกัน 6 อย่างคือ

1) การเปลี่ยนความหมายประสบการณ์ของมนุษย์ 2) โดยเข้าไปแทรกแซงในชีวิตความเป็นอยู่ของคน 3) ด้วยสื่อและประสบการณ์ที่มีความหมาย 4) ที่ตรงกับเกณฑ์เพื่อความเป็นเลิศที่เหมาะสม 5) ทั้งนี้เพื่อพัฒนา การคิด ความรู้สึก และการกระทำ 6) เพื่อที่จะสร้างความเข้าใจในประสบการณ์ของมนุษย์
จากนี้จะเห็นว่าการศึกษา ตั้งแต่ที่บ้าน กลุ่มคนเป็นสังคม ถนนหนทาง สื่อมวลชนทีวี วิทยุ สิ่งพิมพ์ ชุมชน วัฒนธรรม และโรงเรียน ได้เข้าไปแทรกแซงชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน ที่ไม่มีทิศทาง ไม่มีวัตถุประสงค์ โดยไม่ตั้งใจพลั้งเผลอ แต่ในอีกทางหนึ่งก็ด้วยความตั้งใจมีจุดมุ่งหมาย

การที่การศึกษาเข้าไปแทรกแซงนั้นได้เปลี่ยนแปลงและปรับ รูปแบบของคน ในแนวทางที่เราคิด รู้สึก และการกระทำ  นั่นก็คือได้เปลี่ยนความหมายประสบการณ์มนุษย์ สร้างความเชื่อมโยงระหว่างปัจจุบันกับอนาคต อันมีเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ความจริงที่จะเป็นหลักการ ความหวังที่เป็นความทรงจำ นำวัตถุและเหตุการณ์ที่โดดเดี่ยวกลายมาเป็นมโนทัศน์

ส่วนการจัดให้เข้าสู่เกณฑ์บางเกณฑ์ของความเป็นเลิศ ด้วยคุณค่าของวัตถุประสงค์และความตั้งใจ ไม่ชักจูงด้วยลัทธิ ไม่ทำให้ไม่ตาย  ไม่ทำให้ไม่เป็นไปตามหลักจรรยา ไม่ทำให้ไม่มีศิลธรรมอันดี ไม่ทำให้เป็นผู้ต่อต้านสังคม

สำหรับประสบการสื่อวัสดุที่มีความหมาย ทำให้เรียนรู้ได้อย่างมีความหมาย รับรู้อันเป็นสิ่งสำคัญยิ่งโดยผู้เรียน  เชื่อมโยงกับสิ่งที่ผู้เรียนรู้แล้ว มีเหตุผลทางจิตวิทยาที่ติดต่อกันดี ในเรื่องการสนใจในตนเอง การกระตุ้นปลุกเร้า การเชื่อมต่ออย่างใกล้ชิดทางกายภาพ

ทฤษฎีกับการวิจัย

การสังเกตการณ์ที่ใช้วิธีการทางวิทยา ศาสตร์ นำไปสู่การสร้างทฤษฎีขั้นต้น ที่สามารถนำมาใช้อธิบายปรากฏการณ์และการพยากรณ์ที่ทฤษฎีทำให้มีขึ้น ซึ่งโดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์จะต้องมีการทดสอบการทำนายหรือพยากรณ์ดังกล่าว ถ้าการพยาการณ์ได้รับการยืนยันในการทดสอบแล้ว ชี้ให้เห็นว่าทฤษฎีมีประโยชน์ใช้ในปรากฏการณ์หนึ่งๆ ได้ แล้วยังนำไปสู่การสร้างทฤษฎีที่สมบูรณ์ขึ้นซึ่งยังอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ เสมอ ถือเป็นทฤษฎีขั้นต้นใหม่  ในอีกทางหนึ่งเมื่อการทดสอบการพยากรณ์ไม่ผ่าน ก็เป็นตัวบ่งชี้ว่าทฤษฎีไม่ถูกต้อง และนำไปสู่การสร้างทฤษฎีขึ้นใหม่ขั้นต้นอีก

ในการหาเหตุผลของมนุษย์ JohnsonLaird (1983) ได้แนะไว้ว่าแทนที่จะขึ้นอยู่กับหลักสามัญการของตรรกะทั่วไป มนุษย์ยังได้ลงความเห็น(inference) โดยการสร้างรูปแบบปัญหาในความคิด (mental representation of problem) ในบริบท ให้เป็นพื้นฐานสำหรับการทำนิรนัยต่อไป ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปของทฤษฎี จากประสบการณ์ของมนุษย์ที่เกี่ยวข้องไม่เฉพาะการคิดการกระทำแต่รวมไปถึงความ รู้สึก

การเข้าใจผิดมโนทัศน์และทฤษฎีเปียอาเจต์

เมื่อคนเราเข้าใจอะไรมาผิดๆ แล้วยังยึดติด ยึดถือสิ่งที่ไม่ถูกต้องเหล่านั้น แล้วคิดว่าถูกต้องด้วยมีความเชื่ออย่างหนักแน่น เปรียบได้เหมือนกับการถูกล้างสมองแล้วใส่ความคิดที่ไม่ถูกต้องดังกล่าวลงไป จนยากที่จะถอดหรือเปลี่ยนความเชื่อความคิดดังกล่าว  ที่กล่าวมาแล้วนั้นหมายถึงมโนทัศน์ที่มีอยู่ก่อนแล้วเป็นอย่างไร สำหรับนักเรียนทุกวัยยึดเหนี่ยวอยู่กับคำอธิบายที่ทำให้เข้าใจสำหรับพวกเขา และต่อต้านเรื่องใหม่หรือแนวคิดที่แตกต่างออกไป  ตรามเท่าที่ความคิดเดิมที่มีอยู่ยังใช้งานได้อยู่
เมื่อเราท้าทายเด็กนักเรียนต่อการที่เขายังเข้าใจผิดมโนทัศน์อยู่  เพื่อให้เขากลับมาเข้าใจมโนทัศน์ที่ถูกต้องเราต้องทำมากกว่าการเพียงให้ ประสบการณ์ในการลงมือปฏิบัติ เรายังจำต้องให้ผู้เรียนต้องคิดทำความเข้าใจให้สมองทำงาน (brain on)  โดยให้ประสบการณ์ลงมือปฏิบัติซ้ำๆ คล้ายคลึงกัน  ให้สำรวจเหตุการณ์ที่แตกต่างกันไม่ลงรอยกัน และการอภิปรายถึงความชอบความประทับใจ และแนวความคิดที่ไม่ถูกต้อง  การกระทำในลักษณะนี้เราจะจัดหาเส้นทางตรงๆ ที่สามารถจะเข้าใจได้สำหรับเด็กๆ ที่จะสร้างมโนทัศน์ได้อย่างละเอียดถูกต้องมากขึ้น

ข้อตกลงเบื้องต้นภายใต้ทฤษฎีของเปียอาเจต์ในการพัฒนาการทางสติปัญญา ก็คือสิ่งมีชีวิตไม่ว่าสัตว์หรือมนุษย์จะมีโอกาสที่จะอยู่รอดได้ ถ้าสามารถจัดการสร้างระเบียบแบบแผนขึ้นในท่ามกลางประสบการณ์  เมื่อเราตัดสินใจว่าจะกระทำอย่างไร เราทำภายใต้ฐานของอะไรที่เรารู้มาแล้ว ไม่ได้อยู่บนฐานว่าโลกอาจจะเป็นอะไรโดยตัวเอง  ความเข้าใจเป็นบางสิ่งที่เราทุกคนจะต้องสร้างขึ้นสำหรับตัวเราเอง

อาการคิด (operation) ตามทฤษฎีของเปียอาเจต์เป็นผลพวกของการสะท้อนการคิดและการเข้าใจเชิงนามธรรม คำว่าสะท้อนความคิด (reflection) มีความหมายหลักสองอย่างในการใช้ในภาษาอังกฤษตามปกติธรรมดา อย่างแรกหมายถึงกิจกรรมทางจิต (mental activities) และโดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนให้เกิดการคิดที่รู้สำนึก (conscious thought) นั่นคือไม่ได้ต่างไปมากจากการพิจารณาไตร่ตรอง (pondering)
อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับองค์ประกอบของอารมณ์ความรู้สึก  หรือการกระทำที่เคลื่อนไหว (motor action) หรือตัวแทนองค์ประกอบเช่นนั้น อันแสดงรูปร่างหรืออุปมาที่เหมือนกับการอาการทางจิตที่ ให้ความสัมพันธ์ ประสานงาน ให้ข้อสรุป ดังที่นักปรัชญาบางคนกำหนดลักษณะสั้นๆ ว่าเป็นอาการทางจิต (operation of mind)

ตามทัศนะการสร้างความรู้ (constructivist) เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเน้นย้ำและเข้าไปเกี่ยวข้อง ได้แก่กิจกรรมต่างๆที่จะต้องทำให้บุคคลเข้าไปเกี่ยวข้องกับสถานะการณ์แวด ล้อมทั้งหมด อันเป็นประสบการณ์ของบุคคลดังกล่าว  ในเทอมของเปียอาเจต์ เป็นกระบวนการโดยวิธีการที่มโนทัศน์และชนิดมโนทัศน์เช่นนั้นจะได้การสรุป เชิงประจักษ์ นั้นเท่ากับกล่าวได้ว่าเป็นข้อสรุปจากประสบการณ์จากประสาทสัมผัส และกระทำเคลื่อนไหว (sensory and motor) ส่วนข้อสรุปจากการสะท้อนความคิดเกี่ยวข้องกับรูปแบบที่หาได้จากการกระทำและ การคิดจากใจ

ความเข้าใจกับการเรียนรู้

ในการดำเนินชีวิตประจำวันเกี่ยวข้องกับการรู้ (to know) และการรับรู้ (perception) โดยมีประสาทสัมผัสทั้งห้าที่เรียกว่าอายตนะ และใจเป็นตัวรู้อารมณ์ และนำไปสู่ความรู้สึกและความเข้าใจ ดังนั้นการแสดงอาการความเข้าใจ โดยการตอบรับด้วยอาการ ผยักหน้า หรือส่งเสียงบอกให้ทราบอย่างใด อย่างหนึ่ง ครับ คะ โอเค ในภาษาอังกฤษ ก็คือ yes , ok, I see , I get ที่กล่าวมาเป็นการรับรู้และเข้าใจ อาจจะมาจากคำถามว่า รู้เรื่องไหม เข้าใจไหม รู้หรือเปล่า ซึ่งบางครั้งมีความหมายไปในทางที่การรู้อย่างเดียวก็อาจไม่เข้าใจก็ได้ เช่นรู้แต่ทำไม่ได้ปฏิบัติไม่ได้ ดังนั้นความเข้าใจจึงมีหลายระดับ I see อาจเป็นความเข้าใจที่ผิวเผิน กว่า I get

ยังมีความเข้าใจที่นำมาใช้เป็นทางการมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ใช้ในการเรียนการสอน ได้แก่คำว่า comprehension กับคำว่า understanding เป็นคำที่มีความหมายเดียวกันแต่คำว่า understand จะใช้ในภาษาพูดมากกว่า comphehension นั้นเป็นการสร้างความหมาย (construction of meaning) ในแง่นี้การสร้างความหมายของแต่ละคนก็อาจแตกต่างกันไปก็คือเข้าใจแตกต่างกันไปด้วยในแต่ละคน ส่วนคำว่า understanding เป็นความเข้าใจที่ต้องใช้ความรู้เดิมที่มีอยู่แล้วมาช่วยในการสร้างความรู้ใหม่ที่มีความหมายไปไกลกว่าสารสนเทศที่ให้มาหรือที่ได้รับมาและความรู้พื้นฐาน (ความรู้ที่มีอยู่เดิม) ซึ่งนำมาเป็นหลักฐานในการสร้างความรู้ใหม่มากกว่าที่จะดึงเอามาจากความจำประจำตัว
จากที่กล่าวมาแล้วนั้น จะเห็นว่าการเข้าใจนั้นมีความหมายใกล้เคียงกับการเรียนรู้ นั่นก็คือคนจะเข้าใจอะไรได้ก็ต้องเกิดการเรียนรู้ก่อน ทั้งที่เรียนรู้มาแล้ว และเพิ่งเกิดการเรียนรู้ใหม่ การเรียนรู้โดยทั่วไปจะหมายถึงกระบวนการสร้างความรู้ขึ้นมาตลอดเวลา จากความรู้ที่มีอยู่เดิม ไม่ใช่เป็นเพียงการบันทึกความรู้หรือ ดูดซึมเอาความรู้เข้าไว้ การเรียนรู้จึงขึ้นอยู่กับความรู้ (knowledge dependent) ที่คนเราสร้างความรู้ใหม่ขึ้นจากความรู้ปัจจุบัน (current knowledge) หรือความรู้ที่มีอยู่เดิม และจะเกิดการเรียนรู้ได้ดีก็ต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในการสร้างความรู้ด้วยความอยากรู้ หรือสร้างความหมาย สร้างความเข้าใจตามที่ต้องการนั่นเอง

constructivism

constructivist พิจารณาให้เป็นทฤษฎีของการเรียนรู้และการสอน มากกว่าจะเน้นย้ำไปที่ความซับซ้อนของโลกแห่งความเป็นจริง และโครงสร้างทางความรู้ด้านต่างๆ ที่ยังไม่ดีนัก  constructivist เกี่ยวข้องกับวิธีการสอน และยืนยันว่าไม่มีการเรียนรู้ที่เป็นการค้นพบในความเข้าใจที่จะเผยให้ทราบ หรือเหมือนกับถอดหน้ากากของโครงสร้างภายนอก  แบบฉบับของกระบวนการสร้างขึ้นมากกว่าที่จะเป็นบางอย่าง เช่นการอ่านหนังสือเกี่ยวกับธรรมชาติหรือการค้นพบ

constructivist โต้แย้งว่านักเรียกสร้างความเข้าใจ สร้างความรู้ให้แก่ตนเอง  นอกจากนี้ยังพิจารณาให้ constructivist เป็นปรัชญาการเกิดหรือบ่อเกิดของความรู้ (epistemology) เป็นทฤษฎีของความรู้เพื่อใช้ในการอธิบายว่าเรารู้ในสิ่งที่เรารู้ได้อย่างไร (to explain how we know what we know)
 
บ่อเกิดของความรู้ตามแนว constructivist ยืนยันให้ทราบว่าเครื่องมืออย่างเดียวที่มีอยู่ให้กับผู้ที่จะรู้คือความรู้ คือประสาทรับสัมผัสทั้งหลาย (sense)  โดยผ่านทางการเห็น  ได้ยินเสียง ได้กลิ่น และรับรส ที่แต่ละคนปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม  ด้วยข่าวสารจากประสาทรับสัมผัสที่แต่ละคนสร้างขึ้นมาเป็นภาพของโลกที่เข้าไป สัมผัส

ดังนั้น constructivism ยืนยันให้ทราบถึงว่าความรู้มีอยู่ในตัวคน โดยที่ความรู้นั้นไม่สามารถที่จะส่งผ่านถ่ายทอดจากหัวครูไปยังหัวของนัก เรียน  นักเรียนพยายามที่จะทำความเข้าใจถึงสิ่งที่ครู่สอนโดยพยายามที่จะให้สอด คล้องเข้ากันได้กับประสบการณ์ที่มีของแต่ละบุคคล

จุดประสงค์

อะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ชีวิตเรียบง่ายไม่วุ่นวายเป็นวัตถุประสงค์ของบล็อกนี้ เชิญทุกคนเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นแสดงความรู้สึก

ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ทำเรืองเข้าใจยากให้เป็นเรื่องง่าย ทำเรื่องที่สับสนวุ่นวายให้เป็นเรื่องมีระบบที่เข้าใจได้ แต่ไม่ปฏิเสธในการทำเรื่องท้าทาย สิ่งที่ยากให้สำเร็จ และกลายเป็นเรื่องง่ายในที่สุด

หัสชัย สิทธิรักษ์ (ตุ๊)